"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่
10. ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท

     การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา แนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้เนื่องจากเครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถจอดนิ่ง



     11. หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป

     หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร



     12. ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด

     การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์

ที่มา Chevrolet
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

การดูแลรถสีขาวที่ถูกต้อง ก่อนจะเหลืองหมอง

รถสีขาวถือเป็นสียอดฮิตของคนไทยในปัจจุบันไปแล้ว แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า
รถสีขาวอาจเหลืองหมองได้อย่างรวดเร็วหากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้ดูเก่าเร็วกว่ารถสีอื่น  

1.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด

     สีขาวจะเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับแสงแดดเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดคราบหมอง
เหลือง ได้เร็วกว่าสีอื่นๆ ทางที่ดีควรหาที่จอดรถในร่มทั้งที่บ้าน หรือที่ทำงาน
เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับแสงแดดโดยตรง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้รถไม่หมองเร็ว

     2.ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

     จริงๆแล้วข้อนี้สำคัญกับทุกสี เนื่องจากจะเป็นการช่วยล้างคราบสกปรกต่างๆ เช่น มูลนก,
โคลน, คราบน้ำมัน และอื่นๆออกไป ก่อนที่จะทำอันตรายต่อชั้นผิวสี แต่สำหรับรถสีขาวนั้น
ควรแยกฟองน้ำออกเป็น 2 ส่วน คือ ฟองน้ำสำหรับล้างตัวถังส่วนบนและตัวถังส่วนล่าง
เนื่องจากส่วนล่างของรถสกปรกกว่ามาก การใช้ฟองน้ำร่วมกันจะทำให้เกิดคราบจางๆบนตัวถังได้
ซึ่งรถสีขาวจะเห็นได้ชัดกว่าสีอื่น
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

3.เช็ดรถให้แห้งและสะอาด
    เมื่อล้างเสร็จแล้ว ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง ทางที่ดีควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์
สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอย และต้องมั่นใจว่าเช็ดจนแห้งทุกจุด
เพราะตัวถังสีขาวจะเห็นคราบน้ำได้ยาก อาจทำให้เป็นรอยด่างได้

     4.เคลือบสีรถเป็นประจำ
     ควรให้น้ำยาเคลือบสีรถเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ผิวรถเกิดฟิล์มบางๆเคลือบเอาไว้
ช่วยชลอการเกิดคราบเหลือง และที่สำคัญควรเลี่ยงน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของ 'คานูบ้า'
เนื่องจากจะยิ่งเป็นการทำให้รถเหลืองเร็วกว่าปกติ

     5.ใช้ดินน้ำมันล้างรถ
     การใช้ดินน้ำมันล้างรถ ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสามารถดึงคราบ
สกปรกออกจากตัวรถได้เป็นอย่างดี และจะช่วยให้คืนความเงางามของสีรถกลับมาได้อีกด้วย

     คำแนะนำที่กล่าวไปข้างต้นสามารถใช้ได้กับทุกสีรถนะครับ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาๆไปสักหน่อย
แต่หากปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว ก็จะช่วยยืดอายุของสีรถให้ยังคงสดใสได้อย่างยาวนานแน่นอนครับ
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

เช็กด่วน! 7 อาการรถยนต์ส่อมีปัญหา!!

มาสังเกตอาการรถยนต์ของคุณกันดีกว่า ว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆหรือไม่ ด้วยวิธีเช็คง่ายๆ 7 ประการ
ช่วยบ่งบอกอาการเสียเบื้องต้นไม่ให้ลุกลามเกินแก้ไข ไปดูกันว่าทำอย่างไรบ้าง?

1.สตาร์ตเครื่องนานกว่าปกติ

     เสียงสตาร์ตนั้นยังบอกอาการของรถท่านได้ เพราะปกติแล้วการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นจะใช้การถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้ง
ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่ารถเริ่มมีปัญหา หมายถึงแบตเตอร์รี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ
ยิ่งถ้ารถคุณสตาร์ตช้า เตรียมเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ได้เลย

     2.ร่องรอยน้ำมัน

     บางครั้งเมื่อจอดรถแล้วพบรอยน้ำมันหยดเป็นทางนั้น หรือเป็นจุด อย่าวางใจโดยเด็ดขาด เพราะตามปกติแล้วน้ำมันจะ
ไม่หยดได้เอง นอกจากเกิดความเสียหายต่อระบบนั้นๆ หมายถึงต้องมีอะไรผิดปกติแล้ว ดังนั้น ถ้าพบข้อนี้รีบตรวจสอบด่วน

     3.เสียงที่ผิดปกติ

     อาจเป็นเรื่อง ยากในการสังเกตในระหว่างขับรถ แต่สามารถสังเกตได้เมื่อรถจอดหรือเดินเบาเครื่องยนต์ก่อนขับออกถนน
โดยทั่วไปแล้วการทำงานของเครื่องยนต์จะไม่มีเสียงผิดแปลก โดยเฉพาะเสียงเหล็กกระทบกัน หรือทางศัพท์ช่าง
เรียกว่า "เสียงน็อก" (Knocking) หากได้ยินเสียงดังกล่าว และไม่เคยได้ยินมาก่อนนั้น ให้รีบไปหาผู้เชี่ยวชาญทันที
แต่ทางที่ดีอันนี้อยากแนะนำบันทึกเสียงนั้นไว้ก่อน อาจจะถ่ายคลิป เพื่อใช้ประกอบในการอธิบายปัญหา

     4.ควันขาวออกท่อ

     รถที่ดีต้อง ไม่มีควันขาว เมื่อไรก็ตาม ที่รถมีอาการควันสีขาวออกท่อ พร้อมกลิ่นฉุน นั่นหมายถึงต้องมีสิ่ง
ที่ผิดปกติกับระบบเครื่องยนต์ หากชี้ชัดไปนั้นจะมีหลายอาการมาก แต่ถ้าเห็นแล้วรีบหาช่างจะดีกว่า
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

5.ขับรถแล้วดูนุ่มนวลผิดกว่าปกติ

     บางครั้งที่คุณขับรถนั้นเวลาขับสังเกตดีๆ ว่ารถเรานิ่มนวลผิดปกติไปหรือไม่จากที่เคยใช้มา
ถ้าใช่แสดงว่ามีความเป็นไปได้ใน 2 ทาง คือ ลมยางอ่อน บางครั้งอาจจะหมายถึงยางรั่ว หรือ
ระบบช่วงล่างบางชิ้นเสื่อมสภาพ โดยมากคือสปริงหรือโช้ก

     6.เสียงจี๊ดๆ ตอนเบรก

     เมื่อกดเบรก แล้ว ได้ยินเหมือนเสียงหนูร้องเอยู่ในรถ อาจจะด้านหน้า หรือ ด้านหลัง
หมายถึงผ้าเบรกกำลังหมดอายุการใช้งาน ถ้าได้ยินแล้วอย่ารอช้า รีบหาเวลาไปเปลี่ยนผ้าเบรกก่อน
จะทำความเสียหายต่อชุดจานเบรก

     7.รถเร่งแล้วอืดกว่าเดิม

     ถ้าเมื่อไรเร่งแล้วรู้สึกว่าไม่พุ่งเหมือนเดิม แต่ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่น เช่น รอยน้ำมัน
นั่นหมายถึงอาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว แต่หากถ่ายมาแล้วและยังวิ่งอืดอยู่
ก็จะมีอีก 2 เรื่อง คือ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรองอากาศ อาการรถมีอัตราเร่งถอยนี้
มีผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

เติมลมยางนั้นสำคัญอย่างไร?

ด้วยหน้าที่ของยางรถยนต์ที่มากมายและสำคัญเกินกว่าภาพลักษณ์ที่เห็นเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบชิ้นหนึ่งของรถ
ทำให้เพื่อนๆ หลายๆคนไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับวัถตุกลมๆชิ้นนี้ซักเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว
ยางเป็นส่วนที่ดราม่าที่สุดส่วนหนึ่งของรถเลยก็ว่าได้ เพราะต้องรับหน้าที่อันหนักอึ้ง
ทั้งสร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนน (ยึดเกาะถนน) ทั้งในขณะเร่งความเร็ว, เลี้ยวและที่สำคัญคือการเบรค
นอกจากนี้ยังต้องทนการกดดันจากน้ำหนักของรถ, คนและสัมภาระ อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำร้ายหน้าสัมผัส
และโครงสร้างของยางทั้งนั้น ที่นี้เห็นรึยังครับว่าเจ้าวัตถุกลมๆดำๆ นี้มันสำคัญกับรถเราแค่ไหน ?

เพราะฉะนั้นยางทุกเส้นจึงต้องได้รับการดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี ควรรักษาระดับความดันลมยาง
ให้ใกล้เคียงกับที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดจะดีที่สุด  แน่นอนว่ารถราเราใช้กันทุกวันความดันลมยาง
จะลดลงหลังจากการใช้งานอยู่แล้ว  ดังนั้นจึงควรเช็คระดับความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ  
เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางรถที่คุณรักด้วย งั้นเรามาดูวิธีการเติมกันเลยดีกว่า

เติมลมเมื่อยางเย็น

     อันที่จริงควรเช็คลมยางในขณะที่ยางเย็น  หรือก่อนการใช้งานนะครับ  แนะนำตอนเช้าก่อนขับออกไปทำงานก็ได้
เพราะเมื่อล้อเริ่มหมุนยางจะเกิดการเปลี่ยนรูป  ทำให้อากาศภายในเกิดการเคลื่อนไหวจนทำให้เกิดความร้อนขึ้น
แล้วจะทำให้ค่าที่ได้จากการวัดแรงดันผิดเพี้ยน เพราะฉะนั้นควรเติมลมเพิ่มขึ้นอีก 2 ปอนด์
เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัว
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

การสูบลมยาง

ตรวจเช็คลมยางขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือในช่วงเวลาก่อนออกเดินทางและปรับแต่งให้ถูกต้องตามอัตรา
ที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเป็นประจำ
ในกรณียางใหม่  ให้เพิ่มความถี่(ขยันนิดนึง)ในการตรวจเช็คลมยางให้มากกว่าปกติ (ในช่วง 3,000 กม. แรก)  
เนื่องจากโครงยางในช่วงนี้จะมีการขยายตัวทำให้ความดันลมยางลดลง
ห้ามปล่อยลมยางออก  เมื่อความดันลมยางสูงขึ้นในขณะกำลังใช้งานเพราะความร้อนที่เกิดขึ้นขณะที่
ใช้งานเป็นตัวทำให้ความดันลมภายในยางสูงขึ้น
เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์ว  ควรเปลี่ยนวาล์วและแกนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่และมีฝาปิดวาล์ว(จุ๊บลม)ตลอดเวลา
สำหรับยางอะไหล่  ให้ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้องทุกครั้งอยู่เสมอ
ในกรณีรถเก๋งที่ขับด้วยความเร็วสูง หรือเดินทางไกล  ให้เติมลมยางให้มากกว่าปกติ  3-5  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

  ตรวจเช็คความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง

     ควรตรวจเช็คความดันลมยางของรถคุณ ให้อยู่ระดับที่ผู้ผลิตกำหนดเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างสม่ำเสมอ  
โดยปกติโรงงานประกอบรถยนต์จะระบุระดับความดันลมยางที่เหมาะสมกับรถไว้บนแผ่นโลหะบริเวณขอบประตูหรือ
กำหนดในคู่มือประจำรถ  การเติมลมยางที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและยังช่วยยืดอายุการใช้งาน
ให้กับรถคุณอีกด้วย

     การเติมลมยางมากเกินไป

     จะทำให้หน้าสัมผัสของยางกับพื้นผิวถนนลดลง  ดอกยางบริเวณกลางจะสึกมากกว่าด้านข้างทั้งสอง
รถกระดอนเมื่อวิ่งบนถนนขรุขระและการรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก
ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย เพราะฉะนั้นควรเติมให้พอดีๆนะครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

รถมือสอง ทำยังไงให้ขายได้เร็ว

อยากขายรถเก่า ขับไปให้เต็นท์ตีราคาก็โดนกดราคาจนน่าใจหาย ขายเองดีกว่ามั้ย??
เว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์เป็นอีกสื่อที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
เพราะสะดวกในการลงประกาศ โพสต์ปุ๊บก็แสดงผลเลย คนเห็นเยอะ ที่สำคัญคือลงประกาศฟรี
ได้ราคาดีกว่าเอาไปขายเต็นท์
เพื่อทำให้รถของท่านที่จะนำมาลงขายนั้นดูน่าสนใจ และง่ายต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อมากขึ้น
มาดูคำแนะนำสิ่งที่ผู้ขายรถมือสองควรปฏิบัติ

     1. ตั้งราคาที่เหมาะสม

     อาจใช้วิธีเอารถเข้าไปเต็นท์รถตีราคา และดูราคาจากเว็บรถมือสองต่างๆ เปรียบเทียบจากรถปีเดียวกัน
รุ่นเดียวกัน แล้วตั้งราคาในใจเอาไว้ ถ้ารถเราสภาพดีจริงและไม่ได้เร่งรีบที่จะขายก็อาจตั้งราคาสูงหน่อย
ซึ่งโดยมากถ้าเป็นรถตลาด สภาพดี และเป็นสีที่ได้รับความนิยม ใช้เวลาไม่นานก็ขายได้แล้ว

     การประเมินราคา ควรมองความนิยมของรถรุ่นนั้นว่าเป็นที่นิยมหรือไม่ ถ้าตลาดมีความต้องการสูง
ก็อาจจะต่อรองได้บ้าง โดยมากค่าเสื่อมราคาจะลดลงตามอายุของรถ หรือถ้ารถรุ่นนั้นมีโฉมใหม่
ออกมาก็จะต้องปรับราคากันอีกครั้ง

     2. ภาพถ่ายชัดเจน

     ถ้าอยากได้ราคาดี ก่อนถ่ายควรล้างรถดูดฝุ่นให้สะอาดเอี่ยมที่สุด ทั้งภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง
ถ่ายภาพให้เห็นสภาพรวมของรถ ได้แก่ หน้าเต็ม หลังเต็ม ข้างรถ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง
และรูปลักษณ์ภายใน เช่น เบาะ คอนโซล หน้าปัด วิทยุ ฯลฯ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

3. บอกรายละเอียดให้หมด

     เอารถไปตรวจเช็คสภาพ หาประวัติการซ่อมและแจ้งข้อมูลเหล่านั้นให้ครบ เช่น
คุณทำอะไรกับรถแล้วบ้าง รถมีปัญหาตรงไหน เพื่อที่คนซื้อจะได้รู้ว่าถ้าซื้อไปแล้วจะต้องไปทำอะไรต่อ
เคยโดนชนหน้า ชนหลังมาหรือเปล่า บอกให้หมดไม่ต้องกลัวว่าราคาขายจะตก
ดีกว่ามาโดนสาปแช่งทีหลัง


     4. จริงใจ อย่าโปรโมทเกินจริง

     บางครั้งคนที่โทรติดต่อมาอาจจะอยู่ต่างจังหวัด ต้องเสียค่ารถ เสียเวลามาดูรถที่คุณประกาศขาย
ยิ่งคุณโปรโมทรถเกินจริงเท่าไร คนซื้อก็ยิ่งคาดหวังสูง หากมาเห็นทีหลังแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด
ก็จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ ควรบอกรายละเอียดไปตามตรง แสดงความจริงใจในการซื้อขาย


     5. ถ้ายังขายไม่ได้

     อาจเป็นเพราะว่ารถมือสองรุ่นนั้นไม่ได้อยู่ในความนิยมหรืออาจตั้งราคาสูงเกินไป ถ้าอยากขายให้ได้จริงๆ
คงต้องพิจารณาลดราคาลง อีกอย่างหนึ่งการประกาศขายซ้ำๆ ไม่ได้ช่วยให้ขายได้
การตั้งประกาศใหม่ซ้ำซ้อนอาจทำให้ยิ่งดูด้อยค่าลง ควรทำการอัพเดตข้อมูลในประกาศเดิม
เช่น ลงภาพถ่ายในมุมอื่นๆ หรือลดราคาลงเพื่อให้คนสนใจมากขึ้น
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

6 วิธีเช็คสภาพรถหลังกลับจากเดินทางไกล

  การตรวจเช็คสภาพรถยนต์หลังจากเดินทางไกลถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวรถถูกใช้งานมาอย่างหนัก
ทั้งเผชิญกับหลุมบ่อ, ถนนลูกรัง, การลากรอบเครื่องยนต์เป็นเวลานานๆ แม้กระทั่งการบรรทุกน้ำหนักมากกว่าปกติ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการสึกหรอในชิ้นส่วนต่างๆของรถ หากเราตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เบื้องต้น
ก็จะช่วยให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีก่อนจะลุกลามบานปลายในระยะยาว

สิ่งที่ควรตรวจเช็คสภาพหลังกลับจากเดินทางไกล มีดังนี้

1.เช็คน้ำมันเครื่อง

     ควรเช็คระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับปกติ โดยระดับของน้ำมันไม่ควรพร่องลงไปจากระดับ
ที่วัดก่อนการเดินทางมากนัก หากพบว่าน้ำมันเครื่องพร่องลงไปมากหรือต่ำกว่าระดับ MIN
ก็ควรตรวจเช็คว่ามีการรั่วซึมจุดใดหรือไม่

     นอกจากนั้นควรเช็คสภาพน้ำมันเครื่องว่าไม่ดำจนเกินไป รวมถึงไม่มีเศษเขม่าเจือปนอยู่
หากพบก็ควรหาเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ไปเลย

2.เช็คสภาพและลมยาง

     การเดินทางไกลอาจส่งผลให้ความดันลมยางลดลง จึงควรเช็คลมยางเมื่อมีโอกาส เพื่อป้องกันการ
สึกหรอของยางและลดโอกาสเกิดอันตรายจากการขับด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังควรตรวจสภาพยางว่า
ไม่มีอะไรเข้าไปทิ่ม อุด ตำ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ

     หากพบว่าล้อใดล้อหนึ่งมีความดันลมน้อยผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่าล้อข้างนั้นอาจมีอะไรทิ่มเข้า
ไปแล้วคาอยู่ในเนื้อยาง เป็นเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ ทางที่ดีควรปะยางหรือเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย

3.เช็คน้ำหล่อเย็น

     ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ทั้งในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ทางที่ดีน้ำหล่อเย็นไม่ควรลดระดับไปมาก
นักเมื่อเทียบกับก่อนเดินทางไกล และควรเติมให้ได้ระดับพอดีก่อนใช้งานต่อไป
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host