"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่
ประโยชน์จากฟิล์มรถยนต์ เรื่องที่หลายคนมองข้าม

นยุคนี้เมื่ออกรถใหม่ รายการของแถมที่ทางเซลส์นั้นจัดมาให้เชื่อว่าต้องมีติดฟิล์มรอบคันอยู่ในรายการแน่นอน ขึ้นชื่อว่าของแถมแน่นอนว่าคุณภาพย่อมไม่ได้เป็นอย่างที่หวังซักเท่าไหร่ ผู้ซื้อรถหลายท่านจึงเลือกที่จะมาติดฟิล์มรถเองเพราะได้คุณภาพที่สูงกว่า แถมมีประโยชน์เยอะมากกว่าที่หลายคนนึก

          กันความร้อน

          แน่นอนเลยนี่คงเป็นประโยชน์หลักเพราะอากาศในประเทศไทยนั้นบอกได้คำเดียวว่า "ร้อนตับแตก" การติดฟิล์มจึงช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ ช่วยกรองรังสี UV ได้อย่างมาก

   ความสวยงาม

          นี่คงเป็นอีกประเด็นที่หลายท่านเลือกติดฟิล์มเอง เพราะสามารถเลือกได้ตามแบบต้องการไม่ว่าต้องการความเข้ม หรือต้องการฟิล์มปรอทที่เงาวับ ให้รถคุณดูดีขึ้นได้อีกเยอะตามใจในแบบที่ชอบ

          รักษาอุปกรณ์ภายในรถ

          เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น คอนโซลรถ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกระทั่งเบาะ ก็มีขีดความสามารถในการทนความร้อน และหากติดฟิล์มที่ดีมีคุณภาพจะสามารถยืดอายุอุปกรณ์เหล่านี้ให้ดูสวยงาม ไม่กรอบ-ไม่พัง ไปได้อีกนาน

ความปลอดภัย

          การที่เรานำฟิล์มไปติดที่กระจกก็เหมือนมีแผ่นเหนียว ๆ ไปติดที่กระจก เมื่อเกิดอุบัติเหตุเศษกระจกที่แตกจะติดอยู่กับฟิล์ม ไม่กระเด็นใส่ผู้ที่อยู่ในรถทำให้ได้รับบาดเจ็บน้อยลง

   เพิ่มทัศนวิสัยในการขับ

          ในวันที่แดดจัดการขับรถทำให้ปวดตาและวิสัยทัศน์อาจจะพร่ามัว หรือกรณีที่ต้องขับรถตอนกลางคืนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะถนนที่ไม่มีเกาะกลางสำหรับรถสวน มักจะเจอปัญหารถที่สวนมาเปิดไฟสูงใส่ ฟิลม์ที่ดีสามารถตัดแสงรบกวนได้และทำให้การขับขี่ไม่มีปัญหา

  ประหยัดน้ำมัน

          คงสงสัยกันใช่ไหมครับว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง ในเวลาที่คุณขับรถกลางแจ้งหรือในวันที่แดดจัด อุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้น ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ต้องทำงานหนักเพื่อสู้กับอากาศร้อน จนไปดึงพลังงานเครื่องยนต์มาใช้และทำอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขี้น

          เห็นประโยชน์ขนาดนี้แล้วเมื่อต้องติดฟิล์มรถยนต์ก็ควรเลือกที่มีคุณภาพสักหน่อย รับรองว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่ต้องจ่าย แต่ก็อย่าลืมเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีด้วยนะครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ส่วนการยกสูง ก็เหมือนกับการโหลดเตี้ย จะยกสูงขนาดไหนก็ตามใจได้เลย แต่ต้องวัดจากระดับกึ่งกลางไฟหน้ารถกับพื้นถนน ต้องสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หากเกินก็ถือว่าผิด โดนปรับอ่วมแน่นอน และหากไฟหน้าสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร แต่ตัวรถกลับโด่งผิดปกติ มีการดัดแปลงสภาพช่วงล่าง ต้องมีหนังสือรับรองจากวิศวกร รวมไปถึงต้องแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบก เพื่อระบุเข้าไปในเอกสาร ซึ่งหากทำผิดข้อใดข้อหนึ่งไป คุณจะโดนปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)
บางทีบางครั้งการที่เราจะทำอะไรก็ต้องเห็นใจคนอื่นบ้าง หากทุกคนทำตามใจตัวเองกันหมด โลกนี้คงมีแต่ปัญหาแน่นอน ซึ่งการแต่งรถ ยกสูง-โหลดเตี้ย แม้จะเป็นสิทธิ์ของเรา แต่ถ้ามันสร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น เราก็ไม่ควรทำ ใจเขาใจเรา เพราะการตกแต่งแบบนี้ หากรถที่ยกสูงมากๆ เวลาขับกลางคืน ไฟหน้าก็อาจไปแยงตารถคันอื่น ทำให้ขับลำบาก อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งรถสวนทาง และรถที่ขับนำหน้าเรา ฯลฯ ส่วนรถโหลดเตี้ย จะไปไหนมาไหนก็ลำบาก เวลาเจอเนิน ลูกระนาด ต้องเอียงซ้ายเอียงขวากว่าจะพ้น หรือถ้าไม่พ้นสเกิร์ตเกิดติด ครูด หรือหลุดออกมากองบนถนน เสียเวลารถคันหลังที่ต้องรอเราเก็บซากอีก ฯลฯ
แต่ถ้าอยากแต่งแนวนี้ ลงทุนซักหน่อยละกัน ด้วยการติดไฮโดรลิก หรือจะใช้เป็นระบบถุงลมก็ได้ จะได้หมดปัญหากับเรื่องพวกนี้ แต่ก็ต้องแจ้งต่อกรมขนส่งให้เรียบร้อย มีใบวิศวกรรองรับ จะได้ถูกกฎหมาย ไม่ต้องนั่งปวดหัว หรือกังวลอีกต่อไป
http://auto.sanook.com/54909/
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ยกสูง-โหลดเตี้ย แบบไหนไม่ให้ถูกจับ
ขั้นตอนการตกแต่งรถ ไม่มีอะไรมากำหนดตายตัว จะเริ่มแต่งจากตรงไหนก่อนก็ได้ เพียงแต่บางอย่างอาจต้องไล่สเต็ปขึ้นไป เพื่อเวลาใช้งานจริง จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขทีหลัง ซึ่งส่วนมากหลังจากเปลี่ยนล้อแม็กซ์ คนส่วนใหญ่จึงค่อยนำไป โหลดเตี้ย หรือ ยกสูง กันตามใจชอบ เพราะหากข้ามขั้นตอนนี้ไป แล้วเปลี่ยนแม็กซ์ทีหลัง ทรงรถ หรือระดับความสูง-เตี้ย อาจได้ไม่ตรงตามต้องการ แต่ก็อย่างที่บอก จะแต่งแบบไหนก่อนก็ได้ ไม่มีถูกผิด
แต่การยกสูง-โหลดเตี้ย ก็ควรทำแต่พอประมาณ จะได้ไม่ลำบากกับตนเอง เนื่องจากบางคนเล่นโหลดซะเตี้ยติดดิน ซึ่งมันก็ดูสวยจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็ต้องแลกกับเวลาเดินทางไปไหนมาไหน เจอเนิน เจอลูกระนาด หรือเจอทางขึ้น-ลงลาดชัน ฯลฯ ต้องระวังให้ดี ไม่งั้นชุดแต่ง หรือสเกิร์ตแตกหักพังหมดแน่ ส่วนรถที่ยกสูงมากๆ อันนี้ออกจะอันตรายเวลาขับรถเร็วๆ มากกว่า เพราะเวลาเลี้ยวรถอาจจะเกิดอาการโยนตัว รถไม่ค่อยเกาะถนน รวมไปถึงทัศนะวิสัยด้านล่างที่มองเห็นไม่ค่อยชัดเจน ต้องระวังให้ดี
และนอกจากเหตุผลเหล่านี้แล้ว การโหลดเตี้ย-ยกสูง ก็มีกฎหมายเข้ามาควบคุมด้วยเหมือนกัน เพื่อป้องกันให้กับผู้ร่วมทางคนอื่นๆ ที่อาจเกิดอุบัติเหตุ จากการตกแต่งรถที่เกินพอดีของคุณ ซึ่งหากว่ากันตามกฎหมายแล้ว คุณสามารถโหลดต่ำแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องยึดหลักการวัดระยะกึ่งกลางไฟหน้ากับระดับพื้นถนน โดยจุดกึ่งกลางไฟหน้าต้องไม่ต่ำกว่า 40 เซนติเมตร หากต่ำกว่าถือว่าผิด โดนจับปรับแน่นอน นอกจากนี้หากไฟหน้าสูงกว่า 40 เซนติเมตร แต่รถของคุณใส่ชุดแต่ง ใส่สปอยเลอร์จนเตี้ยแทบจะติดพื้น เกณฑ์การตัดสินจะใช้กฎการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ ทั้งคุณตำรวจ ช่างตรวจสภาพรถจากกรมการขนส่ง และสถานที่ตรวจสภาพรถ ตรอ. ว่ามันเสี่ยงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง และผู้อื่นหรือไม่ รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุ หากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ก็ถือว่าผิดได้เช่นกัน โดนปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

3.ลุยน้ำท่วมสูงให้ปิดแอร์
หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลุยน้ำท่วม ให้ใช้ความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดโอกาสที่น้ำจะถูกดูดเข้าเครื่องยนต์จนทำให้เครื่องยนต์พังได้ แต่หากระดับน้ำมีความสูงแตะใต้ท้องรถแล้วล่ะก็ ให้รีบปิดแอร์ทันที เพราะพัดลมแอร์อาจหมุนกระทบน้ำอย่างแรง จนทำให้ใบพัดหักได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนก็จะลดลง จนอาจนำไปสู่การโอเวอร์ฮีตได้
4.เปิดรถผึ่งแดดบ้าง
หากรู้สึกว่าแอร์รถมีกลิ่นอับ ให้ลองนำรถไปจอดไว้กลางแดด แล้วเกิดประตูออกทุกบานให้แสงแดดส่องถึง เพื่อไล่ความชื้นให้หมดไป แถมยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย ทางที่ดีควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์ให้ยาวนานขึ้น ปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับ แถมยังไม่เสียเงินสักบาทอีกด้วยครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

เทคนิคเปิดแอร์รถให้เหมาะสมช่วงหน้าฝน
ช่วงนี้บ้านเราเข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบแล้ว บางพื้นที่ก็ฝนกระหน่ำจนเกิด 'น้ำรอการระบาย' เล่นเอาคนใช้รถเก๋งเล็กเครียดกันไปตามๆกัน ซึ่งช่วงหน้าฝนต่อหน้าหนาวแบบนี้ จะทำให้เกิดความชื้นสะสมในระบบปรับอากาศได้ง่ายมาก
วันนี้จึงมาแนะนำเทคนิคการใช้แอร์รถยนต์ช่วงหน้าฝน เพื่อยืดอายุการใช้งาน ป้องกันไม่ให้ตู้แอร์อับชื้นจนเป็นสาเหตุของเชื้อราได้
1.ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
สภาพอากาศในหน้าฝนจะเย็นลงจากช่วงหน้าร้อนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรปรับเพิ่มอุณหภูมิของแอร์ให้สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แอร์สร้างความเย็นสะสมมากจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย หากรู้สึกร้อน อาจใช้วิธีเพิ่มแรงลมแอร์ก่อน ถ้าไม่เย็นจริงๆ ค่อยปรับอุณหภูมิให้เย็นลงแทน
2.ปิด A/C ก่อนดับเครื่องยนต์
ระบบแอร์ช่วงหน้าฝนจะมีการสะสมความเย็นไว้มากกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้สะสมอยู่ในตู้แอร์ จึงควรปิดสวิตช์ A/C ก่อนดับเครื่องยนต์ราว 1-2 นาที เพื่อไล่ความเย็นออกไปก่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความอับชื้น แถมยังลดการเกิดเชื้อราในช่องแอร์ได้
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

เทคนิคเปิดแอร์รถให้เหมาะสมช่วงหน้าฝน
ช่วงนี้บ้านเราเข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบแล้ว บางพื้นที่ก็ฝนกระหน่ำจนเกิด 'น้ำรอการระบาย' เล่นเอาคนใช้รถเก๋งเล็กเครียดกันไปตามๆกัน ซึ่งช่วงหน้าฝนต่อหน้าหนาวแบบนี้ จะทำให้เกิดความชื้นสะสมในระบบปรับอากาศได้ง่ายมาก
วันนี้จึงมาแนะนำเทคนิคการใช้แอร์รถยนต์ช่วงหน้าฝน เพื่อยืดอายุการใช้งาน ป้องกันไม่ให้ตู้แอร์อับชื้นจนเป็นสาเหตุของเชื้อราได้
1.ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
สภาพอากาศในหน้าฝนจะเย็นลงจากช่วงหน้าร้อนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรปรับเพิ่มอุณหภูมิของแอร์ให้สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แอร์สร้างความเย็นสะสมมากจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย หากรู้สึกร้อน อาจใช้วิธีเพิ่มแรงลมแอร์ก่อน ถ้าไม่เย็นจริงๆ ค่อยปรับอุณหภูมิให้เย็นลงแทน
2.ปิด A/C ก่อนดับเครื่องยนต์
ระบบแอร์ช่วงหน้าฝนจะมีการสะสมความเย็นไว้มากกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้สะสมอยู่ในตู้แอร์ จึงควรปิดสวิตช์ A/C ก่อนดับเครื่องยนต์ราว 1-2 นาที เพื่อไล่ความเย็นออกไปก่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความอับชื้น แถมยังลดการเกิดเชื้อราในช่องแอร์ได้
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ระวัง! ขับรถป้ายแดงอาจโดนปรับ 1 หมื่นบาท
ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มักจะเจอกับรถป้ายแดงอยู่เสมอ เพราะยังมีรถใหม่น่าซื้อให้ได้เป็นเจ้าของกันอย่างไม่ขาดสาย
แม้ว่าหลายคนจะภูมิใจกับการใช้รถป้ายแดง แต่รู้หรือไม่ว่า ตามกฎหมายแล้วการขับรถป้ายแดงมีข้อห้ามสารพัด ซึ่งหากคุณตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ก็อาจต้องเสียค่าปรับหลักหมื่นโดยไม่รู้ตัว คราวนี้ Sanook! Auto จะพาไปรู้จักการขับขี่รถป้ายแดงที่ถูกต้องตามกฎหมายกัน
1.ต้องลงคู่มือป้ายแดงเสมอ
รถป้ายแดงจะมาพร้อมกับสมุดคู่มือประจำรถ ซึ่งการขับรถทุกครั้งจะเป็นต้องลงรายละเอียดให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ขับรถ, เวลาใช้รถ, จุดหมายปลายทาง ฯลฯ ซึ่งปกติแล้วตำรวจจะอนุโลมไม่ตรวจเช็คสมุดดังกล่าว แต่อย่าลืมว่าตามกฎหมายแล้วคุณต้องลงเล่มทะเบียนทุกครั้งที่ใช้งาน หากมิเช่นนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 28 และ มาตรา 61 ถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาท หากคุณตำรวจเอาจริง
2.ใช้กลางคืนได้แต่ต้องได้รับอนุญาต
ปกติแล้วรถป้ายแดงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานตอนกลางคืน เนื่องจากง่ายต่อการกระทำผิดและหลบหนี เนื่องจากแผ่นป้ายสีแดงจะมองเห็นได้ยากกว่าป้ายสีขาวทั่วไป แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ ผู้ขับขี่จะต้องลงบันทึกการใช้รถ พร้อมทั้งต้องมีลายเซ็นจากนายทะเบียน จึงจะสามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ตามกฎหมาย
3.ห้ามวิ่งข้ามเขต
ตามกฎหมายแล้วรถป้ายแดงจะสามารถใช้งานได้เฉพาะจังหวัดที่ระบุไว้บนแผ่นป้ายเท่านั้น หากจำเป็นต้องใช้งานข้ามจังหวัด ผู้ขับขี่มีความจำเป็นต้องลงบันทึกการใช้รถ พร้อมทั้งได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเสียก่อน หากเอกสารถูกต้องตามนี้ รับรองว่าตำรวจไม่มีทางเอาผิดได้แน่นอน
4.ใช้ป้ายแดงเกินไปอาจโดนปรับหนัก
ป้ายแดงสามารถใช้งานกับรถแต่ละคันได้เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งปกติเจ้าของรถจะได้รับป้ายขาวภายใน 30 วันหรือน้อยกว่านั้น แต่หากมีการใช้งานป้ายแดงนานเกินไป อาจทำให้เข้าข่ายหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนรถ หรือใช้งานรถยนต์ที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งตามมาตรา 59 ระบุโทษปรับไว้สูงสุด 1 หมื่นบาทเลยทีเดียว
ปกติแล้วคุณตำรวจมักจะอนุโลมข้อหาที่เกี่ยวกับรถป้ายแดง เนื่องจากมีปริมาณรถบนท้องถนนมาก แต่หากปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้นครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

4 สิ่งห้ามทำหลังฝนตก อาจต้องทำสีรถใหม่ไม่รู้ตัว


หน้าฝนแบบนี้ถือเป็นตัวการที่ทำให้สีรถเกิดความเสียหายได้ง่าย ทั้งสิ่งสกปรกที่ติดมากับน้ำฝน ละอองน้ำจากพื้นถนน รวมถึงยังเป็นสาเหตุให้ตัวถังเกิดสนิมได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย

      จึงมีข้อแนะนำในการดูแลรักษาสีรถช่วงหน้าฝน เพื่อป้องกันไม่ให้สีรถสุดที่รักเป็นรอยหรือสนิมก่อนวาระอันควร จะมีอะไรบ้าง?



1.เช็ดรถด้วยผ้าแห้งขณะรถเปียกฝน

      หลังจากที่ขับรถฝ่าสายฝนมาใหม่ๆ หลายคนคงอยากให้รถกลับมาแห้งเหมือนเดิมโดยเร็ว แต่การใช้ผ้าแห้งเช็ดบนตัวถังที่เปียกในทันที จะทำให้รถเป็นรอยได้ เนื่องจากน้ำมีสิ่งสกปรกเกาะตัวอยู่ เช่น ดิน, ทราย, เศษไม้ เป็นต้น ทางที่ดีควรล้างรถไปเลยจะดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดสิ่งสกปรกเหล่านั้นให้หลุดออกไปเสียก่อน



2.จอดรถกลางแดดจัดขณะเปียกฝน

      หลังจากฝนตกใหม่ๆ ไม่ควรจอดรถไว้กลางแดดทันทีหากเลี่ยงได้ เพราะจะทำให้คราบน้ำฝนเหล่านั้นกลายเป็นรอยฝังแน่น ส่งผลต่อชั้นสีรถได้



3.ไม่ล้างรถเลย

      หลายคนคิดว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องล้างรถ เพราะอย่างไรเดี๋ยวฝนก็ตกอยู่ดี ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะการล้างรถจะช่วยป้องกันคราบฝังแน่นที่เกิดบนผิวรถ ซึ่งอาจทำให้สีรถเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะคราบมูลนกที่ทำให้เกิดรอยด่าง ซึ่งจะไหลย้อยไปตามจุดต่างๆเมื่อโดนฝน ดังนั้นจึงควรล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนก็ตาม



4.สีถลอกต้องรีบทำสี

      หากผิวรถมีรอยถลอกชนิดเปิดหน้าเหล็กด้านในให้เห็น แบบนี้ควรรีบทำสีทันที เพราะคราบน้ำจะไปสะสมที่เนื้อเหล็กโดยตรง หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้สีบริเวณปูด และลอกออกเป็นแผ่นๆได้
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ทำไมเวลาจอดรถต้องเอาหน้าออก? ไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัย ยังมีสาเหตุที่สำคัญกว่านี้อีก
เวลาจอดรถ เพื่อนๆหลายคนชอบเอาหน้าเข้าเพราะสะดวกและรวดเร็ว แต่วิธีที่ถูกต้องคือต้องเอาหน้าออก ไปดูกันเลยว่าทำไม?
สาเหตุที่ว่าทำไมเวลาจอดรถต้องเอาหน้าออก มี 5 สาเหตุด้วยกัน
1.เวลาจะขับรถออกสะดวกและรวดเร็ว
เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เราต้องรีบขับรถออกไป ถ้าเราจอดรถโดยเอาหน้าออก มันจะช่วยให้เราออกตัวได้เร็ว เป็นเหตุให้ในหลายประเทศตำรวจจะจอดรถโดยการเอาหน้าออกเสมอ
2.ป้องกันขโมย
ณ ปัจจุบัน มีการขโมยของในรถเกิดขึ้นบ่อยมาก เวลาเอารถหันหน้าออก เราจะสามารถเห็นการกระทำของโจรจากกระจกข้างรถได้
3.ความปลอดภัย
ในโรงจอดรถ ถ้าต้องจอดในที่จอดแคบๆ แล้วเราจะจอดโดยการเอาหน้ารถเข้าจะมีโอกาสสูงมากที่จะไปชนรถคนอื่น หรือมีคนเดินผ่านมาก็อาจจะชนเขาได้ด้วย แต่ถ้าเอาหลังเข้าโอกาสเสี่ยงพวกนี้จะลดน้อยลง
4.ประหยัดน้ำมัน
เมื่อเพื่อนๆได้ทำการสตาร์ทรถ แล้วกำลังจะขับออก เครื่องยนต์ยังอยู่ในสภาพที่เย็นอยู่ ถ้าเราจอดรถโดยการเอาหน้าเข้า เครื่องยนต์ที่อยู่ในสภาพที่เย็นอยู่ เวลาขับด้วยเกียร์ถอยหลังจะเป็นการกินน้ำมันมาก ในทางตรงกันข้าม รถยนต์กำลังใช้งานอยู่ แล้วเราต้องการจะจอดรถ เครื่องยนต์อยู่ในสภาพร้อนอยู่ ถ้าเราขับด้วยเกียร์ถอยหลังจะไม่กินน้ำมันมาก เพราะฉะนั้นการจอดรถด้วยวิธีเอาหน้าออกเป็นวิธีที่สามารถประหยัดน้ำมันได้
5.กรณีพิเศษ
ถ้ารถของเพื่อนๆแบตหมด สตาร์ทไม่ติด ปัญหาแบบนี้จะแก้ไขยังไง ปกติก็จะขอให้รถคันอื่นมาช่วยพ่วงแบตเตอรี่ใช้ไหมล่ะครับ แต่ถ้ารถของคุณจอดแบบเอาหน้ารถเข้า รถคนอื่นจะมาพ่วงแบตกับรถคุณลำบากมาก แต่ถ้าจอดรถโดยการเอาหน้าออกก็จะไม่เกิดปัญหาแบบนี้
เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆเช่นเรื่องการจอดรถให้ถูกวิธี เพื่อที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ ย้ำ! เวลาจอดรถให้เอาหลังเข้านะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host