ชาร์จมือถือในรถบ่อยๆ แบตเสื่อมจริงไหม?

writeforall

ขับรถเจอรถติดบ่อยๆ ก็ต้อง ชาร์จมือถือในรถ แล้วแบบนี้จะทำให้แบตโทรศัพท์เสื่อมหรือไม่? หาคำตอบ วิธีการชาร์จมือถือในรถ อย่างปลอดภัยกับ อีซี่ คอมแพร์

ประเทศไทย เมืองรถติดแบบนี้ เพื่อนๆ คงเคยขับรถแล้วชาร์จโทรศัพท์ผ่านช่อง USB ในรถ หรือไม่ก็ต่อสายชาร์จกับช่องเสียบบุหรี่กันจนเป็นนิสัย แต่เราก็เห็นคำเตือนมากมายว่าอย่าชาร์จโทรศัพท์ในรถเพราะจะทำให้แบตเสื่อม มือถือพัง สงสัยกันไหมครับว่า การชาร์จโทรศัพท์ในรถ ทำให้แบตโทรศัพท์เสื่อมเร็วหรือไม่? เรามาหาคำตอบ พร้อมดูวิธีการชาร์จโทรศัพท์ในรถ แบบถนอมอายุการใช้งานโทรศัพท์มือถือของเรากับ อีซี่ คอมแพร์ กันเลยครับ

การชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ในรถยนต์

โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ที่มากับแบตแบบลิเธียมไอออน รวมถึง รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มาด้วยช่องเสียบ USB ในรถ ก็เหมือนการชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง การเสียบอุปกรณ์ชาร์จไฟเข้ากับที่เขี่ยบุหรี่นั้น จะทำให้แบตเสื่อมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้จ่ายไฟที่นำมาใช้ รวมถึงพฤติกรรมการชาร์จของคนขับรถล้วนๆ ทั้งการเลือกอุปกรณ์จ่ายไฟที่ให้กระแสที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการเสียบโทรศัพท์เข้ากับสายชาร์จในรถก่อนสตาร์ท

แล้วแบตเตอรี่รถยนต์ล่ะ?

มีความเป็นได้ที่แบตเตอรี่รถยนต์จะเสื่อมไวได้เช่นกัน หากเป็นกรณีที่ชาร์จมือถือแบบหนักหน่วง ชาร์จหลายๆ เครื่องพร้อมกัน เพราะอย่าลืมว่าแบตเตอรี่ หรือทุกๆ อย่างล้วนมีอายุการใช้งานของมัน การเพิ่มปริมาณการใช้งานเกินขีดความสามารถของอุปกรณ์สำคัญที่ใช้จ่ายไฟกับวิทยุ หรือระบบแอร์ในรถยนต์ ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์นั้นเสื่อมเร็วไปด้วยแบบไม่ต้องสงสัย

วิธีป้องกัน ชาร์จมือถือในรถ ไม่ให้แบตเสื่อมเร็ว

ใช้สายชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน หรือ ซื้อของแท้ มาใช้ นั่นเอง เราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสถียรของกระแสไฟที่อุปกรณ์ราคาถูก แต่ไม่ได้มาตรฐานจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ และ แบตเตอรี่รถยนต์ในระยะยาวนะครับ และควรสตาร์ทรถก่อนแล้วค่อยเสียบสายชาร์จ อย่าเสียบสายชาร์จคาไว้เพราะเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์จะเกิดกระแสไฟกระชากส่งผลต่อแบตมือถือได้ และอย่าลืมดึงอุปกรณ์ต่อที่ชาร์จโทรศัพท์ออกจากช่องเขี่ยบุหรี่ทุกครั้งก่อนดับเครื่อง

นอกจากการเรียนรู้วิธีการขับรถที่ถูกวิธี และใช้อุปกรณ์เสริมภายในรถเพื่อยืดอายุการใช้งานแล้ว อย่าลืมเพิ่มความคุ้มครองด้วยประกันภัยรถยนต์นะครับ จะประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจ
ที่มา : www.easycompare.co.th