"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่

มาทำความรู้จักกับ พ.ร.บ.รถยนต์กันดีกว่า

สำหรับท่านที่มีรถยนต์คงจะคุ้นเคยกับสิ่งจำเป็นอย่างการต่อพรบ รถยนต์ ซึ่งก็ยังมีหลายท่านที่ยังไม่เข้าใจว่าคืออะไรกันแน่ จำเป็นหรือไม่ แล้วตัวเราซึ่งเป็นเจ้าของรถนั้นจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
        จริงๆ แล้วที่เราเรียกง่ายๆ ว่าพรบ รถยนต์ นั่นก็คือ "พ.ร.บ." หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกต้องมีการทำประกันพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับคนในรถและผู้ใช้รถใช้ถนน ว่าจะได้รับสิทธิคุ้มครองในรูปแบบของเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งกฎหมายจะให้ความคุ้มครอง ต่อทั้งตัวคู่กรณีและผู้เอาประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
        ในการต่อทะเบียนรถยนต์หรือการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีซึ่งเป็นข้อบังคับว่ารถยนต์ทุกคันต้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็จะมีพ.ร.บ. รถยนต์เป็นหนึ่งในเอกสารประกอบที่ใช้ยื่นอีกด้วย จึงถือได้ว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อพ.ร.บ.ได้ และหลังจากดำเนินการแล้วต้องเก็บหลักฐานการมีประกันรถยนต์ประเภทนี้ไว้ในรถให้พร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อใช้รถด้วย โดยหากรถยนต์คันใดไม่มี ต้องรับโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
        และเมื่อทำหน้าที่เป็นประกันรถยนต์ สิ่งที่เราได้ประโยชน์ก็คือให้ความคุ้มครองนั่นเอง แต่จะเป็นความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบุคคลเท่านั้น โดยไม่คุ้มครองความเสียหายอื่นใด นั่นก็คือคุ้มครองคนแต่ไม่คุ้มครองรถ ดังนั้นในส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับรถ เพื่อที่จะให้ได้ความคุ้มครองครบทุกด้านจึงมีกลุ่มที่เรียกว่าประกันภาคสมัครใจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยในกรณีความเสียหายมีมาก ผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง ในประเทศไทยก็จะมี ประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์ 2 ประกันรถยนต์ชั้น 3 และประกัน รถยนต์ 2+ หรือ 3+ ดังที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดีตามโฆษณาหรือที่นิยมซื้อกันในปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ความเห็นของเจ้าของรถที่จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้เนื่องจากไม่ได้มีกฎหมายบังคับ
        กลับมาที่ พรบ รถยนต์เพื่อดูผลประโยชน์ที่จะได้รับกันต่อ สำหรับวงเงินคุ้มครองจะมีดังต่อไปนี้
1.        ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 80,000 บาท ต่อคน
2.        กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 300,000 บาท ต่อคน
3.        เงินชดเชยรายวัน (ผู้ป่วยใน) ไม่เกิน 200 บาท ต่อวัน (ระยะเวลารวมไม่เกิน 20 วัน)
4.        วงเงินความคุ้มครองต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000,000 บาท
        และหากเกิดอุบัติเหตุ เราจะมีขั้นตอนในการเคลมอย่างไรบ้างนั้น เริ่มจาก
1.  แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ
2.  เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และเมื่อการรักษาเรียบร้อยแล้วให้ขอเอกสารจากทางโรงพยาบาลด้วย ซึ่งก็คือใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงิน)
3.  ส่งเอกสารต่อไปยังบริษัทประกันภัยที่ซื้อ พ.ร.บ. เพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล โดยเอกสารได้แก่ บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
        แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์จากบริษัทใดก็ตาม ทั้งการทำประกันภาคบังคับหรือ พ.ร.บ.รถยนต์  และการทำประกันภาคสมัครใจ สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ ก็คือ สิทธิประโยชน์และหน้าที่ของเราตามสัญญาประกันภัยนั่นเอง
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host