สิ่งเหล่านี้แหละ สาเหตุหลักที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

unyana

หากเราเป็นคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องช่างสักเท่าไหร่ หรือเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ตรวจสภาพรถยนต์มากนัก ก็อาจจะต้องพบเจอกับปัญหารถสตาร์ทไม่ติดได้ ซึ่งก็คงสร้างความกังวลใจอยู่ไม่น้อย โดยอาการรถสตาร์ทไม่ติดก็เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เราสามารถไล่เรียงสาเหตุที่มีส่วนทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ดังนี้

1.        แบตเตอรี่เสื่อม
จำไว้ง่าย ๆ เลยว่าหากคุณใช้งานแบตเตอรี่ดังกล่าวมานานเกิน 2 ปี แล้วเริ่มรู้สึกว่ารถสตาร์ทติดยาก สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจเกิดอาการแบตเตอรี่เสื่อมแน่ ๆ โดยอาการ สตาร์ทรถไม่ติด หากเกิดจากแบตเตอรี่นั้นมักเป็นในช่วงเช้าหลังจากเราดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้นาน ๆ เกิด 8 ชั่วโมง ประกอบกับอากาศที่เย็นกว่าตอนกลางวันส่งผลให้ตื่นเช้ามาแล้วสตาร์ทไม่ค่อยติดนั่นเอง
2.        ระบบไฟฟ้าในรถยนต์
เช่น หนูกัดสายไฟ, ไม่ได้ปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าภายในรถ, จอดทิ้งไว้นานเกินไป เป็นต้น วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่ารถของเราสตาร์ทไม่ติดจากสาเหตุนี้หรือไม่ หากบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทแล้วไฟหน้าปัดไม่โชว์ขึ้นมาแสดงว่าน่าจะเกิดจากระบบสายไฟชัวร์
3.        ไดสตาร์ทมีปัญหา
มักจะเกิดในคนที่พึ่งเปลี่ยนแบตฯ ลูกใหม่มาแต่ยัง สตาร์ทรถไม่ติด เหมือนเดิม หรือบางครั้งสตาร์ทแล้วอาจมีเสียงแชะเหมือนจะติดแล้วก็ดับไป ดูหน้าปัดไฟก็ขึ้นปกติ แบบนี้บ่งบอกได้เลยว่าไดสตาร์ทมีปัญหาแน่นอน สาเหตุของอาการไดสตาร์ทมีปัญหาเกิดจากหลายปัจจัย เช่น แปรงถ่านหมด, สายไฟเชื่อมไปยังไดสตาร์ทหลุดหรือโดนกัดขาด, ฟิวส์ตรงไดสตาร์ทขาด เป็นต้น
4.        ไดชาร์จหมดสภาพ
บางทีเมื่อสตาร์ทไปได้ครู่หนึ่งแล้วเครื่องเดินรอบต่ำอยู่ปรากฏรถดับไปหน้าตาเฉย บางคนอาจเคยเจอประสบการณ์ขับ ๆ รถไปอยู่รถดับกลางอากาศเล่นเอางงกันทั้งคัน บอกเลยอาการเหล่านี้มาจากไดชาร์จหมดสภาพแล้วนั่นเอง
5.        น้ำมันหมดเกลี้ยง
การที่น้ำมันหมดหรือน้ำมันเหลือน้อยมากๆ ทำให้ไม่พอนำไปใช้จุดสตาร์ทรถจึงส่งผลให้สตาร์ทไม่ติด เป็นอีกสาเหตุใหญ่ที่หลายคนคาดไม่ถึง คนที่ชอบทิ้งน้ำมันรถให้เหลือขีดแดงแล้วไม่ยอมเติมต้องระวังเพราะท้ายที่สุดพอสตาร์ทไม่ติดกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข

จะเห็นได้ว่าทุกกรณีที่ทำให้ รถสตาร์ทไม่ติด มักเกิดขึ้นจากความเผลอเรอหรือความไม่รู้ของผู้ขับขี่ แต่วิธีแก้ไขปัญหาง่าย ๆ ก็คือเมื่อ สตาร์ทรถไม่ติด ให้ใช้การพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันที่มีแบตฯ ปกติไปก่อน แล้วจึงค่อยไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งว่า รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากอะไร จากนั้นจึงค่อยซ่อมแซม แต่ทางที่ดีเมื่อถึงเวลาเข้าเช็คระยะก็ควรให้ช่างตรวจสอบทุกอย่างแบบครบครันจะได้ไม่ต้องเผชิญกับปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด จนกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัว