"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่

เทคนิคการดูแลรักษาสีรถให้เงางาม อย่างถูกวิธี ด้วยตนเอง....

วิธีการบำรุงรักษาสีรถอย่างถูกวิธี
การล้างรถที่ถูกวิธี
1.        ฉีดน้ำให้แรงที่สุด เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด
2.        ควรล้างด้วยน้ำสะอาดหรือล้างด้วยแชมพู
3.        ควรล้างรถจากส่วนบน ลงล่าง โดยการใช้ผ้านุ่ม เช่นผ้าสำลี ซึ่งควรคะนำมาแช่น้ำไว้สัก   3 คืน และถ้าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ยิ่งดีครับ และการล้างรถนั้น ขอแนะนำให้แบ่งผ้าออกเป็น 2 ผืน (อย่าใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะอาจจะมีเม็ดกรวด  ทรายติดอยู่)                                                                                                                                ผืนแรกใช้สำหรับล้างส่วนบน หลังคา ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง กระจกรถทั้งหมด
ผืนที่สอง ใช้สำหรับล้างส่วนด้านล่างของตัวรถ ตั้งแต่ขอบกระจกด้านล่างลงมา ทั้งหมด
เหตุผลที่ต้องแยกเนื่องจาก โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านส่วนล่างของรถมีฝุ่นมาก
4.        ฉีดน้ำไล่แชมพูออกให้หมด
5.        อย่าล้างรถกลางแดด เพราะแดด จะทำให้น้ำบนรถแห้งเร็ว และเกิดคราบน้ำขึ้น  


การล้างรถโดยใช้ถังใส่น้ำล้าง
1.        การล้างรถแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ มิฉะนั้น สิ่งสกปรกที่ผสมอยู่ในน้ำ อาจทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วยบนรถได้ (วิธีการนี้ ไม่แนะนำให้ทำ ?. แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องหมั่นซักผ้าและเปลี่ยนน้ำ)

ข้อควรระวังในการล้างรถ
1.        ไม่ควรล้างรถตอนเย็น ด้วยตนเอง เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้อาจทำให้เกิดสนิม ในบางจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง หรือไม่สามารถเช็ดแห้งได้ ยกเว้นแต่จะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้งหรือจะขับรถต่อไปเป็นระยะทางไกล ลมจะช่วยให้ทุกซอยทุกมุม แห้งสนิท
2.        ไม่ควรล้างรถกลางแดด เนื่องจากแสงแดด จะทำให้น้ำแห้งเร็ว และทำให้เกิดคราบน้ำบนสีรถขึ้น


การเช็ดรถที่ถูกวิธี
1.        ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์ ในการเช็ดรถ เนื่องจากผ้าเหล่านี้ จะไม่ทำให้รถเป็นรอย แต่ถ้าผ้าชามัวร์แท้ ควรจะระวัง เวลาที่ผ้าชามัวร์แห้งสนิท จะแข็งตัว และเมื่อจะทำมาเช็ดรถ ก็ควรจะนำผ้าชามัวร์นั้น จุ่มน้ำให้เปียกจริง ๆ ทั้งผืน ก่อนเช็ดรถ เพราะถ้าไม่เปียกทั้งผืน แสดงว่ายังมีส่วนที่ยังไม่โดนน้ำที่ยังแข็งอยุ่ ซึ่งอาจทำให้สีรถเป็นรอยได้ง่าย
2.        การเช็ดรถนั้น ควรเช็ดตั้งแต่แผงบนก่อน เพื่อให้น้ำหยดลงด้านล่างให้หมดก่อน ไล่ลงมาด้านล่างของรถ จะได้ไม่ต้องทำงานสองต่อไงครับ
3.        ส่วนของรถดังต่อไปนี้ไม่ควรหลีกเลี่ยง  ควรเช็ดให้แห้งที่สุด
3.1        ด้านในขอบประตูทั้งหมด
3.2        ด้านในกระโปรงหลัง
3.3        ด้านในฝาถังน้ำมัน
3.4        กระจกหน้ารถ เพื่อให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ ชัดเจน ไม่มีอะไรมาบดบัง หรือระคายเคืองสายตา
3.5        ล้อแม็กซ์  ควรจะเช็ด ด้วย เพราะถ้าไม่เช็ดจะเป็นคราบน้ำน่าเกลียด และถ้าปล่อยไว้นาน ๆ คราบน้ำเหล่านั้น จะเช็ดออกยาก จนถึงเช็ดไม่ออก


การดูแลรักษาสีรถยนต์ โดยวิธีการเคลือบสีรถด้วยตนเอง
1.        ล้างรถให้สะอาด ตามวิธีการข้างต้น
2.        เช็ดรถให้น้ำหมาด ๆ
3.        เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่ม ขอเน้นว่าผ้านุ่มนะครับ ที่มีน้ำหมาด ๆ
4.        เช็ดบนตัวรถ โดยวนเป็นก้นหอย ให้ทั่วบริเวณตัวรถ
5.        ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่รถบุไว้ข้างกระป๋อง (ถ้าเป็นของคาร์แลค 68 จะทิ้งน้ำยาไว้ประมาณ 30 นาที)
6.        ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้านุ่ม เช็ดน้ำยาออกให้หมดทั่วตัวรถ



ความแตกต่างในการขัดเคลือบสี และการเคลือบสีเพียงอย่างเดียว

การขัด (ถ้าเป็นที่คาร์แลค 68 จะเรียกว่าการขจัดคราบไคล) และเคลือบสี
        คือการที่เรานำสิ่งสกปรกฝังแน่นที่อยู่บนหน้าแลคเกอร์ของสีรถออกไป คือทำให้รถมันมีประกายดัวยตัวของแลคเกอร์รถที่แท้จริง เมื่อรถไม่มีคราบแล้ว เราก็ปกป้องความใส สวยของผิวสีรถนั้น ด้วยการเคลือบสี ทับลงไป ซึ่งจะทำให้รถมีความเงางาม ใส ไม่มีคราบสกปรกฝังอยู่แต่อย่างใด รถจะสวย ใสอยู่ตลอดเวลา ผิวสีรถจะลื่น น้ำไม่เกาะและฝุ่นไม่เกาะ รถไม่หมอง                 
นอกจากจะให้ความสวย ใส เงา งามของรถ แล้ว ยังให้การปกป้องผิวสีรถจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ แสงแดด ยางมะตอย ริ้วรอย มูลนก ยางไม้ และมลภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้สีรถเสียหายได้อีกด้วยครับ

หมายเหตุ : เพื่อนสมาชิกบางท่านอาจจะกลัวว่า การขัดเคลือบสีนั้น จะทำให้หน้าแลคเกอร์ผิวสีรถบางลง แต่ถ้าเป็นที่ศูนย์บริการมาตรฐาน เคลือบสีของคาร์แลค 68 ความกังวลเรื่องดังกล่าวจะหมดไป เรากล้ารับประกันว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องสีรถหรือหน้าแลคเกอร์บางลงอย่างแน่นอน

การเคลือบสีรถ
        เป็นการปกป้องสีรถเช่นกัน  แต่สีรถอาจจะดูหมอง ๆ เนื่องจากการเคลือบสีอย่างเดียวบ่อย ๆ นั้น ถ้าบนผิวสีรถ มีคราบสกปรกฝังอยู่ ก็จะทำให้ผิวสีรถไม่ใส แล้วถ้าเคลือบทับไปบ่อย ๆ ก็จะทำให้คราบสกปรกเหล่านั้น ฝังตัวแน่นขึ้นด้วย แล้วถ้าแย่ไปกว่านั้น ถ้ามีละอองสีหรือยางมะตอยฝังอยู่ โดยที่เราไม่รู้ ทำให้ไม่ได้ขจัดมันออกไปก่อน แล้วเคลือบทับลงไป จะทำให้สิ่งเหล่านี้   ไปกัดกิน ผิวสีรถได้ ทำให้ผิวสีรถเป็นรู เล็ก ๆ และทำให้รถดูหมองแต่ในขณะเดียวกันก็ไเป็นการป้องกันผิวสีรถเช่นกันครับ


ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัย ยินดีให้คำแนะนำที่ถูกต้องครับ... โปรดติดต่อ..
คุณไพบูลย์
ศูนย์บริการมาตรฐาน เคลือบสีรถยนต์ CAR-LACK 68 สาขารามคำแหง และรัชดาภิเษก
โทร. 0-2732-0303, 01-30-66-999
[/img]
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
http://img72.imageshack.us/img72/4875/12dn1.jpg

ไพบูลย์ และ วิชาญ คาร์แลค 68 รัชดา & เกษตร-นวมินทร์
โทร. 01-30-66-999, 05-935-6868

TOP

ขอบคุณครับที่แนะนำ  สักวันผมคงเป็นลูกค้าคุณแน่ๆ  



ดีใจครับที่คุณตามมา  เพื่อมีอะไรจะได้ปรึกษาได้ อิอิ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ขอบคุณครับ........    :-)
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา

TOP

อยากไปขัดเคลือบสีรถบ้างจัง
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
.......................................................................

TOP

อยากไปทำด้วยเหมือนกัน มีสาขาที่สกลนครไหครับ หรือที่อุดรก็ได้เอ้า
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

อ.ยูรครับ

ที่โลตัสอุดร มี MOTO KLEAN นะครับ ลองดู ไม่รู้จะดีเหมือนที่จันท์หรือเปล่า
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับเทคนิคที่ให้มา .. ถ้าทำเองคงไม่ไหวแน่ๆเลยค่ะ คงต้องไปใช้บริการคุณพี่ carlack68ram แหงเลย
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
--------------------------------------------------
*\*/* Come Back To Home *\*/*

TOP

[quote author="185kph"]อ.ยูรครับ

ที่โลตัสอุดร มี MOTO KLEAN นะครับ ลองดู ไม่รู้จะดีเหมือนที่จันท์หรือเปล่า[/quote]

มายืนยันครับว่ามี แต่ไม่เคยใช้บริการ รถเยอะ/ลูกค้าแน่นมากๆ ครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

มีส่วน ลด พิเศษ ป่ะ คับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

8)
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host