Axl

การเปลี่ยนหัวฉีดทำให้มีการฉีดน่ำมันมากขึ้น เช่นของ K20  มากกว่าหัวฉีดเดิม เปลี่ยนเพื่อให้จ่ายได้เพียงพอเวลาใช้ความเร็วสูงๆ แต่ City 2012 ก่อน MC เดิมๆ ไม่ต้องเปลี่ยนหัวฉีดก็เติม E85 ได้ครับ ถ้าไม่ขับเร็ว เกินไป
ถ้าวิ่งวันละ 60 กิโล เฉลี่ย กม ละ 2.5-3 บาท ถ้าเติม E10 95 ก็เกือบวันะ 200 บาท แต่เติม E85 บอกตามตรงว่า กินน้ำมันพอสมควร เพราะ E85 จะต้องใช้สัดส่วนมากกว่า E10 95 ในการจุดระเบิดให้ได้พลังงานออกมาครับ

ผมเปลี่ยนหัวฉีด K20 มาเหมือนกัน ลองคำนวนออกมา พบว่า E85 จะประหยัดกว่า หลัก สตางค์ เท่านั้นเอง ไม่ถึง 1 บาท เมื่อเทียบกับราคา ระหว่าง E10 95 กับ E85 ต่างกันเท่านั้น ผมว่าไม่คุ้ม กับความเสี่ยงอื่นๆ เช่น สายท่อน้ำมัน กรองเบนซิน

อัตราเฉลี่ยผม คำนวนตามจริง ออกมาได้แบบนี้ครับ เอาในเมืองรถติดๆละกัน อีกอย่าง ล้อผมหนัก จานเบรคหนัก เลยชอบออกตัวแรงๆ

ได้ค่าเฉลี่ย สถิติ ไม่ได้วัดครั้งเดียวนะครับ ทำไว้ ตั้งแต่ต้นปี หลังจะเปลี่ยนหัวฉีด
E95 อยู๋ที่ 10 Km - L เฉลี่ย กม ละ 3.5 -4  บาท
E20 อยู่ที่ 9 Km - L  เฉลี่ย กม ละ 3 - 3.5 บาท
E85 อยู่ที 6-7 Km - L เฉลี่ย กม ละ 3.5 บาท (E85 ราคาต้องไม่เกิน ลิตรละ 20 ถึงจะเห็ว่าคุ้มกว่า น้ำมันประเภทอื่นๆ)

ลองคำนวนดูดีๆนะครับ จะเห็นว่า E20 แทบจะประหยัดที่สุด แต่ การใช้น้ำมันทั้ง 3 แบบ มาหาค่าเฉลี่ยจะเห็นว่าถูกกว่า หลัก สตางค์เท่านั้นเอง ติดแก๊สดีกว่าครับ ถ้าจะเอาประหยัดๆ  ดูแลรถดีๆ ผมเห็นวิ่งเป็ฯแสนกิโล ก็ไม่ีปัญหาอะไรครับ

Axl

ตอบกลับ 9# kid_kid


    ตอบกลับ 7# kid_kid


    ต้องเติมเต็มถัง แล้ว วิ่งจนหมด จับเป็น trip ว่า 1 ถังวิ่งได้กี่กิโล หลังจากนั้น เติมเข้าไปใหม่ แล้วเอาระยะกิโลต่อทริป หารจำนวนลิตรที่เติมเข้าไปใหม่ดูครับ เช่น trip 360 กม หาร จำนวนลิตร 33 ลิตร  = 10.9 กม ต่อ ลิตร

จะได้ค่าเฉลี่ย กม/ลิตร ถและเอาจำนวนเงินที่เติม เช่นเติมเข้าไป 1100 หาร จำนวน กิโลที่วิ่งได้ต่อ 1 ถัง ก็จะได้ กิโล ละ กี่ บาท
1100 หาร 360 ก็จะได้ กิโลละ 3 บาท

   ที่ให้จับแบบนี้ เพราะ ค่า เฉลี่ย มันคำนวนไม่ตรงครับ ค่าจะเกินจริง อยู่ นิดหน่อย จับ คำนวนดูเอง เพราะ พฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน น้ำหนักรถ รถเดิมๆ หรือเปลี่ยนล้อ ก็มีผลครับ

ผมถึงคำนวนออกมา ในแต่ละประเภทของน้ำมัน ต่างกันนิดเด๊ยว ถ้าจะเอาประหยัดที่สุดตอนนี้ก็ต้องติดแก๊สครับ