"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่


  แบตเตอรี่
        ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำรองในกรณีที่เครื่องยนต์ทำงานแล้ว การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ขณะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานเป็นการทำร้ายแบตเตอรี่อย่างหนึ่ง เพราะโดยปกติเมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เท่านั้น แต่ถ้าประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์)ลดลง รถยนต์จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่แทนเพราะไดชาร์จไม่สามารถผลิตกระแสไฟได้พอ เพราะฉะนั้นแบตเตอรี่จะมีอายุสั้น หรือยาว จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ด้วย
ปัจจุบันแบตเตอรี่ที่มีขายในประเทศไทยมีอยู่ 3 ประเภท


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  1.แบตเตอรี่ชนิดน้ำ คือ แบตเตอรี่ที่ต้องมีการเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ เนื่องจากมีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่สูง แบตเตอรี่ชนิดน้ำต้องการ การบำรุงรักษาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์
2.แบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อย(Low maintenance) คือ แบตเตอรี่ที่ยังต้องมีการเติมน้ำกลั่นแต่ไม่บ่อยเท่ากับ "แบตเตอรี่ชนิดน้ำ" เพราะแบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยมีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ต่ำจึงไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย แบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยต้องการ การบำรุงรักษาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 3 เดือน
3.แบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องบำรุงรักษา(Maintenance free) หรือที่คนทั่วไปเข้าใจผิดว่ามันคือ"แบตแห้ง" จริงๆแบตเตอรี่ชนิดนี้ยังไม่ใช่แบตแห้งอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน แต่ที่คนเข้าใจผิดกันก็เพราะว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้ไม่มีรูให้เติมน้ำกลั่น เป็นแบตเตอรี่ที่ปิดสนิท คนเลยเข้าใจกันว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้เป็นแบตเตอรี่แห้ง ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยมีการระเหยของน้ำกลั่นที่ต่ำมาก ทำให้ตลอดอายุการใช้งานจึงไม่ต้องมีการเติมน้ำกลั่น หมดปัญหาเรื่องการบำรุงรักษา และปัญหาน้ำกรดในแบตเตอรี่ล้นออกมากัดสี และตัวถังรถยนต์ เนื่องจากเติมน้ำกลั่นมากเกิน


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  สาเหตุที่รถดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช้ขณะเครื่องยนต์ทำงานแล้วมีอยู่ 2 กรณีคือ
        1. มีการเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปภายในรถมากเกินกว่ากำลังไฟที่ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) จะสามารถผลิตได้ เช่น ติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่ม, ติดชุดไฟเพิ่ม
        โดยปกติรถแต่ละรุ่นจะมีความต้องการไฟฟ้า หรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เท่ากัน(คิดที่กรณีรถใหม่ออกจากโรงงาน) ซึ่งทางผู้ผลิตรถแต่ละรุ่นจะเลือกขนาดของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) มาให้เหมาะสมกับความต้องการไฟของรถแต่ละรุ่น แต่เมื่อมีการเพิ่มขึ้นของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ติดตั้งชุดเครื่องเสียงเพิ่ม, ติดตั้งชุดไฟเพิ่ม ส่งผลทำให้ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ไม่สามารถผลิตกระแสไฟได้พอกับความต้องการ ทำให้ต้องมีการดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช้ และหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง

        2. ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เริ่มเสื่อม หรือไดอ่อน ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เสื่อม แต่ยังไม่เสียมันเลยไม่มีไฟแจ้งเตือนที่หน้าปัดรถยนต์ แต่สามารถตรวจสอบได้ 
        แรงดันไฟที่ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) รถยนต์สามารถสร้างขึ้นได้จะอยู่ที่ประมาณ 13.9V – 14.5V แต่จะมีบางกรณีที่ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟได้ถึง 13.9V – 14.5V เราเรียกกรณีนี้ว่าอาการ "ไดชาร์จอ่อน" ซึ่งเวลาตรวจสอบว่ารถมีอาการไดชาร์จอ่อนก็คือ สตาร์ทเครื่องแล้วเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก คือ แอร์ และไฟหน้าค้างไว้ เอาดิจิตอลมิเตอร์ปรับเป็น DC โวลต์ วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก และขั้วลบของแบตเตอรี่ค่าแรงดันไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ที่ได้ควรอยู่ระหว่าง 13.9V – 14.5V ถ้าต่ำกว่านี้แสดงว่าประสิทธิภาพการผลิตไฟของไดชาร์จ(อัลเทอร์เน-เตอร์) เริ่มลดลง และถ้าแรงดันไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ต่ำกว่า 13.5V แสดงว่ามีอาการไดชาร์จอ่อนจะส่งผลให้ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ไม่สามารถผลิตกระแสไฟได้เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในรถ ทำให้ต้องมีการดึงไฟจากแบตเตอรี่ไปใช้ส่งผลให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาวะคายไฟ สาเหตุนี้เป็นสาเหตุใหญ่และสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกตินั่นเอง
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



ข้อสังเกตเมื่อแบตเตอรี่เสื่อม

1. เครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก 
2. ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง 
3. ระบบกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง 
4. ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  แบตเตอรี่รถยนต์ ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยนต์เพื่อให้ทำงานได้ เช่น มอเตอร์สตาร์ท ระบบจุดระเบิด ในขณะที่สตาร์ทรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้อนพลังงานให้กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง ด้วย เช่น ระบบไฟส่องสว่าง วิทยุเครื่องเสียง เป็นต้น

นั่น หมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์จะหมดได้ก็มีอยู่เพียง 2 กรณี นั่นก็คือ

1.เก็บไฟไม่อยู่ หรือ หมดอายุการใช้งาน

2.ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ หรือ บกพร่อง ซึ่งทำให้ประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้น้อยมากไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ไม่สามารถประจุไฟเข้าไปได้เลย


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  ร้านแสงเจริญแบตเตอรี่ บางแค T.02-421-5760,02-806-1138 (https://www.facebook.com/saengcharoenbattery)  รับบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ รถยนต์ทุกประเภท ทั้ง รถเก๋ง รถกระบะ รถหกล้อ รถสิบล้อ เรามีแบตเตอรี่หลากหลายยี่ห้อให้ทั้งเลือกสรร เช่น แบตเตอรี่ยี่ห้อ GS 3K  Boliden เป็นต้น


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  ขั้นตอนในการให้บริการลูกค้า

1 แจ้งชื่อ-นามสกุล ของลูกค้า
2 แจ้งที่อยู่ของลูกค้า เช่น ถนน  หมู่บ้าน ซอย เลขที่บ้าน
3 แจ้งว่ารถยนต์ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ปีไหน ใช้แบตเตอรี่รุ่นอะไรอยู่


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  หากว่าเรารู้จักการถนอมดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ของเราได้ไปอีกหลายปีเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถทำได้เองด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า 
2. ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบเกลือเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด 
3. ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกๆ 1 สัปดาห์ 
4. ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์ ว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไป ถ้าต่ำไป จะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในระเหยเร็วหรือเดือดเร็วได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน 
5. ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำ ประสิทธิภาพการแพร่กระจาย ของน้ำกรด และน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น 
6. ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี 
7. ควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนด ไม่ควรเติมต่ำหรือสูงเกินไป (เติมสูงไป เป็นสาเหตุหลักทำให้ขี้เกลือขึ้นเร็ว แบตสกปรกเร็ว) 


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



เมื่อเราใช้แบตเตอรี่ไปได้สัก 1 ปีครึ่ง หรือ 2 ปี แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมสภาพ
หากสังเกตดีๆ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้เสื่อมสภาพจะมีสัญญาณเตือนดังนี้
1. เครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก
2. ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง
3. ระบบกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
4. ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปรกติ
เมื่อมีสัญญาณเตือนดังนี้ ก็เข้าร้านที่ไว้ใจได้ เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เลยครับ


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  สาระน่ารู้เรื่องแบตเตอรี่รถยนต์ 
1. การจัดแบตฯขึ้นรถต้องพิจารณาจากขนาดของเครื่องยนต์เป็นลำดับแรก เพราะผู้ผลิตออกแบบมารองรับรถแต่ละรุ่นโดยเฉพาะอยู่แล้วเพียงแต่เลือกใช้ให้เหมาะสมเ่ท่านั้นเองครับ เช่น รถกระบะเครื่อง 3.0 CC. ก็ต้องใช้ 19 แผ่น 710 CCA. เครื่อง 2.8 ก็ต้องใช้ 17 แผ่น 622 CCA. เป็นต้น. หลักมีอยู่ว่า ต้องตรงรุ่น ถ้าเครื่องเล็กใช้มากกว่าได้แต่ไม่ควรใช้น้อยกว่าเพราะจะเสียเงินเร็วขึ้น หรือใช้แบตฯได้ไม่ถึง 2 ปี 
ค่า CCA. หรือ Cooling Clanking Ahmpare สำคัญกว่าแอมป์ แอมป์คือปริมาณไฟสำรอง แต่ CCA. คือกำลังหรือแรงสตาร์ท หน้าที่ของแบตฯ คือสตาร์ทรถ หลังสตาร์ทเสร็จไดชาร์จจะทำงานต่อ ดังนั้น แรงบิดสตาร์ทหรือ CCA. จึงควรพิจารณาเป็นลำดับแรกร่วมกับขนาดของเครื่องยนต์ครับ จึงควรเลือกแบตฯที่มีค่า CCA. สูง ๆ ไว้ก่อน... 


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host