"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่
ถ้ากลับไปดูที่กระทู้ เจ้าของกระทู้ขอคำแนะว่าควรใช้หัวเทียนอะไร part no.อะไร ส่วนตัวผมเองได้ให้ข้อแนะนำไปแล้วว่าหัวเทียนเดิมที่มากับรถ เบอร์ NGK IZFR6K13 ราคาหัวละ 561 บาท เป็นหัวเทียนที่แนะนำให้ใช้ อายุการใช้งานยาวนานกว่า 100000 km ผมเองใช้มา 130000 km แล้วยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ส่วนราคาใครจะถูกกว่าใคร หรือใครหาได้ถูกกว่า ก็แล้วแต่เพื่อนๆจะตัดสินใจเองแล้วกันครับ ส่วนถ้าใครต้องการของที่ราคาถูก ก็ต้องรอคุณ noth1 และคุณ hachi มาแนะนำต่อแล้วกันครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

จบข่าวครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

นึกว่าตัวเดียวกันที่แท้ก็หัวเทียนเทียบซึ่งมันคนละเรื่องกันเลย ngkเค้าแบ่งเกรดหัวเทียนตามสมรรถนะดังนี้
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

V power
G power
Iridium IX
Laser platinum
และสุดยอดหัวเทียนทั้งสมรรถถนะและราคาที่แพงโคตร Laser iridium ซึ่ง honda new city เลือกใช้เกรดนี้
และมันคงเทียบกันยากเพราะ G power ก็ไม่ใช่เบอร์เดียวกันกับศูนย์แน่นอน ของราคา ร้อยกว่าบาทมันก็คงใช้ได้แต่สมรรถถนะะก็คงสู้ laser iridium ไม่ได้
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

คุณsirapob คุณเลือกใช้ถูกแล้วครับ ส่วนใครจะะสะดวกใช้ตัวไไหนก็แล้วแต่ คงห้ามกันไม่ได้ ผมแต่ทำตาม service manual เท่านั้ นถ้าใครสงสัยก็ไปดูเบอร์เทียบได้ ส่วน new city ถ้าของ NGK ต้องเบอร์นี้เบอร์เดียวครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

หัวเทียนตลาดหัวละ 80 ก็ใส่ได้แต่วิ่งออกไม่ออก เดินเรียบไม่เรียบก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมคงไม่ลองและไม่แนะนำให้ท่านลอง
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ทั้งหมดที่โต้แย้งกันมา นอกจากจะเกี่ยวกับประเภทของหัวเทียนที่ผู้ผลิตแนะนำให้ใช้แล้ว ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญก็คือระยะห่างเขี้ยวหัวเทียน ซึ่งService manual L15A7 ระบุไว้ว่า ระยะห่างต้องอยู่ระหว่าง 1.2-1.3 mm. ซึ่งถ้าเลือกใช้ NGK หรือ Denso ก็จะมีระยะห่างเขี้ยวหัวเทียนเท่ากับ 1.3 mm ซึ่งอยู่ในค่าที่กำหนด แต่ถ้าเลือกใช้เบอร์อื่นหรือเบอร์เทียบ ดังตารางข้างล่าง เช่น BKR5EIX-11 ระยะห่างเขี้ยวหัวเทียนจะเหลือแค่ 1.1 mm เอง และจากตารางของ NGK ทั้ง New city 09 และ Jazz ก็จะใช้หัวเทียนเบอร์เดียวกันและไม่มีเบอร์เทียบแนะนำ

ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/3/2013 14:27 โดย Worapong

IK 20 มีค่า Heat range ตรงตามคู่มือก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่ไม่แพ้กันเลยก็คือ ระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียน หรือ Gap ของมันจะต้องตรงกับคู่มือที่แนะนำด้วย ถ้า Gap 1.1 กับ 1.3 mm อาจดูเหมือนไม่มากแต่ก็มีผลกับสมรรถนะของหัวเทียนและไฟที่ได้ ถ้าใช้กับ city รุ่นเก่าก็น่าจะพอไหวเพราะส่วนใหญ่ gap จะอยู่ที่ 1.1 แต่ถ้าเป็น new city 09 อาจจะไม่เหมาะ เพราะถ้าดูจากคู่มือ spec ระบุ gap หัวเทียนใหม่ควรอยู่ที่ 1.2-1.3 mm แต่ IK20 เท่าที่ดูจากตาราง gap จะอยู่ที่ 1.1 mm ซึ่งน้อยกว่าค่าที่แนะนำ และปัจจุบันระบบจุดระเบิดได้พัฒนาไปมาก รถรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นแบบ COP (coil on plug) หรือคอยล์เดี่ยวต่อตรงกับหัวเทียนเลย ไม่ต้องมีสายหัวเทียน ทำให้ไม่ต้องสูญเสียความต้านทานจากการจุดระเบิดและการจ่ายไฟรวดเร็วแม่นยำมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงต้องมีการออกแบบและเลือกใช้หัวเทียนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่รถบางรุ่นอาจเป็นระบบจุดระเบิดแบบ dual coil หรือเก่าหน่อยก็เป็นแบบจานจ่าย ดังนั้นความต้องการในการหัวเทียนเขี้ยวก็ยังคงมีอยู่ ก็หวังว่าเพื่อนๆคงจะพอเข้าใจและเลือกใช้หัวเทียนให้ถูกต้องและเหมาะสมได้ ไม่ใช่แค่ดูเบอร์หัวเทียนอย่างเดียวจะต้องดู gap หัวเทียนให้เหมาะกับรถเราด้วย และถ้าเราดูตารางหัวเทียน ไม่ว่าจะเป็น NGK และ DENSO Gap ที่เลือกใช้จะหาเบอร์เทียบได้ค่อนข้างยากหรือไม่มีเลย แต่ถ้าบางคนถามว่า ลำพังแค่ gap ระหว่าง 1.1 กับ 1.3 มันมีผลยังไงกับเครื่องยนต์และการจุดระเบิด ถ้าวัดด้วยความรู้สึกก็คงอาจจะยาก แต่ถ้าวัดและวิเคราะห์ไอเสียและต่อ เครื่องวิเคราะห์การจุดระเบิดก็อาจเห็นความแตกต่างพอสมควร เพราะแค่ 0.1 mm ก็มีความหมาย ยกตัวอย่างเช่น ระยะห่าง valve ที่ว่ากันเป็น feeler ที่ต้องใช้ ฟิลล์เลอร์เกจวัดนั่นเอง

เปรียบเทียบเบอร์หัวเทียน NGK กับ DENSO ซึ่งจะใช้ Heat range เดียวกัน



แต่ Heat range เดียวกันแต่ gap หัวเทียนก็ไม่ได้เท่ากันเสมอไป ต้องดูโค๊ดต่อท้ายด้วย เช่น IK20G Gap = 1.1 mm

ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

มันไม่ใช่ทฤษฎีอย่างเดียวแต่ช่างที่เป็นเค้าก็เอามันมาใช้ด้วย ซึ่งล้วนมาจากผู้ผลิตทั้งนั้น และผมไม่ได้แนะนำให้เข้าศูนย์ หรือต้องเชื่อศุนย์แต่ให้เชื่อและทำตาม Manufacturing spec หรือค่าที่กำหนดในคู่มือรถ เพราะส่วนตัว ผมก็ไม่ชอบศุนย์ ผมน่ะทำตัวห่างไกลศุนย์มานานแล้ว และไม่เคยพึ่งศุนย์ แต่อยากให้เพื่อนๆดูแลรถเป็น และรู้สิ่งที่เค้าออกแบบมาว่าเค้ามีที่มาที่ไปอย่างไร การที่เราจะเปลี่ยนอะไหล่ซักตัว ทุกคนก็คิดว่ามันน่าจะดีถึงได้เปลี่ยน แต่ถ้าเปลี่ยนไปจาก Spec แล้วมันมีผลยังไงบ้าง เราควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจไว้ก็ไม่เสียหาย ไม่ได้บังคับให้ต้องทำตาม ท่านไม่ทำก็แล้วแต่ท่านเพราะรถท่าน เพราะนี่คือคำแนะนำ แต่ถ้ารถคุณยังต้องพึ่งพาศูนย์อยู่ ถ้าคุณไม่ทำตามศูนย์ เค้าก็ไม่รับประกันงานซ่อมให้คุณ และกระทู้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาถามๆกันในทุก web board ที่เกี่ยวกับรถ ก็มักจะมีปัญหาหรือคำถามที่เกิดขึ้นจากการดัดแปลงและผลที่ตามมาโดยที่มีความรู้หรือทำไปโดยไม่รู้ ไม่ใช่หรือ ไม่งั้นก็คงไม่มี web board ตอบปัญหารถยนต์หรอกครับ ทุกอย่างมันมีหลักการและวิศวกรรมรองรับ ไม่ได้นั่งเทียนเขียนหรือนอนฝันเอาเอง และรถที่เราขับอยู่ก่อนจะเอามาขาย เค้าก็มีการออกแบบทางวิศวกรรม การทดลอง Phototype/Model และทดสอบก่อนที่ทำเป็นเชิงพาณิชย์ มากมายหลายขัันตอนกว่าจะเป็นรถตลาดหรือรถจ่ายกับข้าวได้ สรุปก็คือ

คำถามทั้งหมดตั้งแต่ข้อที่ 1-3 ท่านต้องไปถามศูนย์ honda นะครับ เพราะผมไม่ใช่ตัวแทนศุนย์ แต่แค่อยากบอกว่า
ทุกอย่างมันต้องมี spec อ้างอิงเสมอ มันถึงจะผลิตได้หรือซื้อสินค้าได้ เช่น ถ้าคุณไปร้านอะไหล่และถามว่าซื้อหัวเทียน honda หน่อย เค้าก็จะถามคุณว่ารถรุ่นอะไร มันมีหลายรุ่นหลายเบอร์ นี่คือเค้าต้องการ spec และถ้าคุณไม่รู้ spec คุณจะรู้ได้ไงว่าเค้าหยิบของให้ถูกหรือไม่ถูก หรือลองถามแบบโง่ๆกับร้านอะไหล่ก็ได้ว่าคุณรู้ได้ไง ว่าหัวเทียนรถผมใช้รุ่นนี้ เค้าก็จะเอา part no. หรือ Data catalog ให้คุณดู ถ้าคุณยังไม่เชื่ออีก มันก็เรื่องของคุณ และเวลาแต่งรถคุณต้องใช้ spec หรือเปล่า คุณรู้ได้ไงว่าเครื่องที่คุณเอามาวางมันดีกว่า จะเลือกเครื่อง block ไหนยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ต้องใช้ spec ไหม รู้ได้ไงครับว่ามันดีกว่าตัวเดิม แต่อย่าเอา spec รถบ้านไปเทียบกับรถแต่ง spec ต่างกันผลลัพธ์ก็ต่างกัน

ส่วนรถที่ออกจากศุนย์ต้องแต่งหรือไม่แต่ง ใครแรงกว่าใคร ผมเองไม่เคยแต่งรถ ซื้อมายังไงก็ใช้ยังงั้น เพราะผมซื้อรถตลาด ราคาพอจ่ายได้ ไม่ได้ซื้อรถแข่ง ถ้าผมถามคุณว่า รถที่คุณแต่งเองวิ่งสู้รถ sport car หรือพวกเฟอร์รารี่จากโรงงานได้ไหมล่ะครับ หรือถ้าให้ผมไปแข่งกับรถพวกนั้นก็คงแข่งไม่ได้เพราะ spec มันต่างกันมากและราคาก็คนละเรื่องกันเลย จะสู้กันได้ไง แต่การที่คุณเอารถบ้านไปแต่ง คุณลงทุนไปเท่าไหร่ รถแรงขึ้นเท่าไหร่ คุณได้อะไรมาบ้างจากการแต่งรถ คุณเคยคำนวณมันไหมก่อนแต่ง หรือว่าทำแล้วและลองเอามาวิ่งดู แค่การวางเครื่องใหม่ ก็ทำให้รถแรงกว่าเครื่องเดิมๆ แล้วไงครับ คณอาจจะต้องเปลี่ยนยางดีขึ้น แพงขึ้น เบรค ช่วงล่าง ดีขึ้นแต่ตัวถังเดิมๆ และต้องไปโหลดเพื่อลด CG ของรถอีก เงินทั้งนั้นและท่านได้อะไรมา นอกจากความแรง และก็อาจจะบริโภคน้ำมันเล่นเปล่าๆ ผมใช้รถโรงงาน ดูแลรถตามระยะและข้อกำหนด เพื่อขับไปทำงานและเที่ยว จ่ายตลาด ถึงเวลาก็ขาย ไม่ได้เอาไปแข่งกับใคร แค่วิ่งได้ตาม spec ดรงงานผมก็พอใจ ถ้าอยากได้รถแรงๆต้องซื้อรถ sport car ครับ ไม่ต้อง modify แบบผิดๆถูกๆ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ทั้งหมดทั้งมวลที่พูดไปนี่ มันคือรถบ้านๆนะครับ ไม่ใช่รถแต่งและก็ไม่เคยพูดถึงรถแต่งเลย ผมก็แค่แนะนำหัวเทียนรถบ้าน มาตรฐานโรงงานแค่นั้น เพราะเห็นว่ารถรุ่นนี้เลือกใช้หัวเทียนที่ดีอยู่แล้วแต่ก็ติดที่ว่าราคาก็เแพงที่สุดด้วยเท่าที่ผมเคยเห็นมา ส่วนถ้าใครคิดว่าแพง อยากประหยัดก็แล้วแต่ครับ วิจารณญาณของแต่ละบุคคลครับ ผมไม่ได้ขายหัวเทียน

ปล.รถแรงถูกรถตลาดแซงก็เห็นอยู่บ่อยไป ไม่จำเป็นหรอกครับที่รถตลาดต้องเอามาแต่งทุกคัน แรงแค่ไหน tip speed ก็ไม่ต่างกันหรอกครับ แค่ใครไปไวกว่ากัน ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจและคันเร่ง อยุ่ที่ใครใจถึงกว่าก็เท่านั้น ส่วนผม อยากไปช้าๆเพราะอยากอยู่ดูแลลูกเมียนานๆครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host