แชร์เทคนิคจัดการกับ ดอกเบี้ยบ้าน ผ่อนอย่างไรให้หมดไว

Muthita

หากคุณต้องการเป็นเจ้าของบ้าน ที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยทั่วไปมักระบุจุดประสงค์เพื่อให้กู้ไว้อย่างกว้าง ๆ เช่น สินเชื่อบ้านของธนาคารกรุงไทย ซึ่งระบุจุดประสงค์ไว้สำหรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ กู้ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง กู้ซื้อที่ดิน พร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน กู้เงินทำบ้าน และสำหรับรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น แต่ในขณะเดียวกันธนาคารบางแห่งก็ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยระบุจุดประสงค์เฉพาะตามนโยบายของธนาคารในขณะนั้น เช่น สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมือสอง สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ดังนั้นอันดับแรกที่ผู้กู้ควรศึกษาก็คือจุดประสงค์ หลักเกณฑ์ และคุณสมบัติของผู้กู้ตรงกับเงื่อนไขที่สินเชื่อเหล่านั้นกำหนดไว้หรือไม่
โดยขั้นแรกเราต้องพิจารณา เปรียบเทียบสินเชื่อของแต่ละธนาคารก่อนเพื่อให้เราได้ธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยบ้าน ต่ำที่สุดเท่าที่ผู้กู้จะสามารถทำได้ ในขั้นตอนนี้ผู้กู้ควรพิจารณาอาชีพและสังกัดหน่วยงานของตนเองก่อนว่าเข้าข่ายอาชีพเฉพาะทางหรือสังกัดอยู่ในหน่วยงานที่มีธนาคารรองรับ ดอกเบี้ยกู้บ้าน อัตราต่ำพิเศษหรือไม่ เช่น ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบข้อมูลจุดนี้คือผู้กู้ควรสอบถามกับฝ่ายสวัสดิการขององค์กรว่าหากต้องการกู้สินเชื่อบ้านมีธนาคารไหนรองรับเป็นพิเศษอยู่บ้างหรือไม่ หากมีก็ควรติดต่อธนาคารนั้นเพื่อพิจารณาเงื่อนไขดอกเบี้ยด้วยตนเองอีกครั้ง
แต่สำหรับบุคคลทั่วไปการเปรียบเทียบอัตรา ดอกเบี้ยผ่อนบ้านกับธนาคารกรุงไทย พร้อมหลักเกณฑ์ของแต่ละธนาคารก่อนยื่นกู้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่น เดือน มิ.ย. 2565 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เฉลี่ย 3 ปีแรก เพียง 1.99% ต่อปี แต่ให้วงเงินกู้สูงสุดเพียง 1.2 ล้านบาท ซึ่งหากผู้กู้ต้องการวงเงินมากกว่า 1.2 ล้านบาท ก็ต้องมองหาสินเชื่อกู้บ้านของธนาคารอื่นต่อไป จากนั้นผู้กู้พบว่าสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.00 % ต่อปี และให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน เปรียบเทียบกับสินเชื่อของธนาคารอื่น ๆ แล้ว สินเชื่อบ้านของธนาคารกรุงไทยเข้ากับคุณสมบัติและความต้องการของผู้กู้มากที่สุดในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด นั่นหมายความว่าสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของผู้กู้ในขณะนั้น
และหากต้องการปลดหนี้บ้านได้เร็วกว่ากำหนด วันนี้เรามีเทคนิคมาแนะนำกัน ได้แก่ การผ่อนชำระเกินค่างวด แทนที่จะผ่อน 10,000 บาทตามค่างวด ก็เปลี่ยนมาผ่อน 12,000 บาททุกเดือน การนำเงินก้อนมาโปะค่าบ้านตามโอกาสที่เหมาะสม อย่างการขายที่ดินได้เงินก้อนแล้วแบ่งมาโปะบ้านสัก 2 แสนบาท ก็จะช่วยลดส่วนของเงินต้นลงได้มาก รวมไปถึงคำนวณค่าสินเชื่อบ้านการขอลดดอกเบี้ย (Retention) กับธนาคารเดิมทุก 3 ปี หรือการรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่นเพื่อรับอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเมื่อสัญญาเงินกู้เข้าระยะเวลาปลอดค่าปรับจะสามารถช่วยให้ผู้กู้ปลดภาระหนี้บ้านได้เร็วกว่ากำหนดเช่นกัน โดยแนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมไว้ เพื่อให้เราได้รับสินเชื่อที่ดีที่สุด สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ผ่อนบ้าน ที่ https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan/16 หรือคำนวณสินเชื่อบ้าน ที่        https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan