- โพสต์แล้ว
- 1
- ตั้งกระทู้
- 7
- ระดับการใช้งาน
- 10
- ออนไลน์
- 2 ชัวโมง
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 7/9/2016
- เข้าระบบล่าสุด
- 21/10/2016
|
ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มมั้ย?
หลายๆท่านที่กำลังตัดสินใจทำประกันรถยนต์ใหม่โดยอยากประหยัดค่าใช้จ่ายอาจจะกำลังศึกษาข้องมูลของประกันรถยนต์ 3 ประเภทอยู่ คุ้มครองเยอะก็แพง พออยากได้ราคาถูกก็คุ้มครองน้อยเหลือเกิน แล้วแบบไหนถึงจะดี ถึงจะคุ้มค่า คำตอบที่ง่ายที่สุดคือมันเหมาะกับการใช้งานของเราหรือปล่าว? เพราะถ้าคุณมีรถยนต์ใหม่ที่ใช้งานเป็นประจำ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 อาจจะคุ้มค่าที่สุดกับคุณ แต่ถ้าคุณมีรถยนต์ที่มีอายุมาก นานๆขับทีนึง นอกจากบริษัทประกันภัยจะไม่รับทำประกันชั้น 1 แล้ว มันจะไม่คุ้มค่ากับคุณอีกด้วย แล้วถ้าเราหันไปมองประกันภัยประเภทที่ราคาต่ำที่สุดล่ะ? เงื่อนไขการคุ้มครองน้อยซะจนแทบไม่มีประโยชน์ แต่ก็มีเบี้ยประกันที่ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับวงเงินประกัน วันนี้ผมจะมาอธิบายถึงกรณีที่ประกันรถยนต์ประเภท 3 คุ้มค่ายังไง
เงื่อนไขการคุ้มครองของประกันรถยนต์ประเภท 3 มีอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นหนึ่งในประกันรถยนต์ 3 ประเภทพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไป โดยเป็นแผนประกันภัยที่มีเบี้ยประกันต่ำที่สุด เงื่อนไขในการคุ้มครองต่ำที่สุด โดยมีการคุ้มครองแค่สองอย่างคือ
ความเสียหายทรัพย์สินของคู่กรณี ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์ของคู่กรณี เราขับรถชนกันกับเขาแล้วเขาเรียกร้องค่าเสียหาย บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าคุ้มครองให้กับคุณ
ความเสียหายบุคคล สุขภาพ อนามัย ตัวอย่างเช่นค่ารักษาพยาบาล ค่าทุพพลภาพ ค่าสูญเสียอวัยวะของคู่กรณี
ถ้านำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะเห็นชัดว่าประกันรถยนต์ประเภท 3 มีเงื่อนไขการคุ้มครองที่น้อยมาก และที่สำคัญไม่ได้ดูแลค่าความเสียหายให้กับรถเรา
แล้วรถเราเหมาะกับประกันประเภท 3 ไหม?
ผมมองว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือประมาณการใช้รถยนต์ของคุณ ถ้าคุณใช้รถยนต์คันทำประกันบ่อยครั้ง คุณอาจจะเลือกมองหาประกันรถยนต์ประเภท + ที่มีการคุ้มครองค่าความเสียหายรถยนต์ของคุณจะดีกว่า เพราะถ้าคุณใช้บ่อย แปลว่าคุณอาจจะขาดมันไม่ได้ในการดำเนินชีวิต ควรจะมีการดูแลและบริการช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัย
รถคุณเริ่มเสื่อมสภาพหรือยัง? ถ้ารถยนต์ของคุณเริ่มเสื่อมสภาพแล้วล่ะก็ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3 จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะคนมักมองว่ารถเราเสียบ่อยทำประกันรถยนต์ 3 ประเภทหลักไม่คุ้มค่า ทำแบบ + ที่ถูกแล้วออกค่าซ่อมรถเราด้วยดีกว่า ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะบริษัทประกันภัยจะไม่จ่ายค่าเสื่อมสภาพรถยนต์ให้เราเลยในกรณีใดใด เพราะบริษัทประกันภัย จะประกันแค่ภัยพิบัติ หรือ อุบัติภัยเท่านั้นเอง การที่เรามีรถยนต์ที่เสื่อมสภาพแล้วแปลว่าการซ่อมแซมจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งด้วยตัวของมันเอง คุณควรชดเชยเงินส่วนนั้นด้วยการลดค่าใช้จ่ายส่วนเบี้ยประกันดีกว่า

กำลังทรัพย์ คือเรื่องที่สำคัญที่สุดกับประกันรถยนต์ 3 ประเภท ถ้าคุณไม่สามารถรองรับภาระเบี้ยประกันราคาสูงได้ คุณก็ไม่ควรทำประกันชั้น 1 คุณควรมองหาประกันชั้นสองหรือประกันชั้นสามแทน เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะทำประกันรถยนต์แบบไหนก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญคือการขับอย่างมีวินัย เน้นถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ เพียงแค่หาคนมาช่วยเหลือเราเท่านั้นเอง และประกันรถยนต์ชั้นสามเป็นรูปแบบที่มีไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว จึงทำให้เบี้ยประกันต่ำพอสำหรับคนใช้รถทุกคน |
|