ใครที่มีปัญหาเรื่องของการดูแลพรมปูพื้นรถยนต์มาอ่านเรื่องนี้กัน

unyana

เมื่อทำ ประกันรถยนต์ แล้วไม่ว่าจะเป็นการไป ต่อพรบรถยนต์ มาตามกฎหมาย หรือทำ ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจก็ตามนั้น แน่นอนว่าเราเบาใจในเรื่องของค่าใช้จ่ายยามเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ความคุ้มครองที่เราจะได้รับนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่เราเลือกด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเป็น ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 นั้นเราก็คงไม่ต้องกังวลมาก เพราะมันให้ความคุ้มครองสูงที่สุดอยู่แล้ว แต่ถ้าทำ ประกัน รถยนต์ 2 หรือประกันชั้น 3นั้นเราก็ควรศึกษาเงื่อนไขรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดี เพราะมันมีข้อยกเว้นเครื่องความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกทำประกันชั้นใดก็ตามนั้นก็อย่าลืมใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของรถยนต์ด้วย อย่างเช่น ในเรื่องของการทำความสะอาดในส่วนต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นที่เบาะ ที่คอนโซล ช่องเก็บสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงที่พรมปูพื้นรถยนต์ด้วย เพราะบางคนนั้นพรมปูพื้นรถยนต์มันดูไม่ได้เลย ฉะนั้นในวันนี้ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลรักษาพรมปูพื้นรถยนต์อยู่นั้นก็ควรเข้ามาอ่านวิธีการต่าง ๆ ที่เรานำเอามาฝากกันในวันนี้ด้วย
1.        ถ้าหากว่าพรมเปียกน้ำ แน่นอนเราควรถอดเบาะนั่งออกก่อน แล้วเราก็ค่อยถอดพรมออกมาซัก ซึ่งเราควรผึ่งแดดแรง ๆ อย่างน้อย 2 วันหรือจนกว่ามันจะแห้งสนิท ค่อยนำมาติดเข้าที่ตามเดิมนั่นเอง
2.        ถ้าหากว่าพรมเปื้อนโคลนหรือเราอ้วกออกมาเลอะที่พรมนั้น เราควรใช้อุปกรณ์ตักและก็เอาพวกเศษความสกปรกต่าง ๆ ออกมาก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ให้เราเช็ดด้วยผ้าแห้งที่สะอาดหรือใช้กระดาษซับความเปียกชื้นให้ออกไปจนหมาด
3.        ถ้าหากว่าหมากฝรั่งติดอยู่ที่พรม แน่นอนว่าเราห้ามขูดเอาหมากฝรั่งออกตอนที่มันยังเหนียวอยู่ออก วิธีการเอาออกนั้นก็ให้เราใช้ก้อนน้ำแข็งมาประคบที่หมากฝรั่งให้เย็นจนแข็งตัวก่อน แล้งหลังจากนั้นก็ให้เราใช้ช้อนขูดออก ซึ่งการใช้วิธีนี้จะทำให้หมากฝรั่งออกง่ายขึ้นนั่นเอง
4.        ถ้าหากว่าพรมเปื้อนสารเคมี อย่างเช่น พวกน้ำยาทาเล็บของสาว พวกน้ำมันเครื่อง หรือโดยไขจารบีนั้นก็ให้เราใช้แชมพูที่ใช้สำหรับซักพรมโดยเฉพาะมาทาแล้วก็ให้เรารีบล้างออกทันที ก่อนที่สารเคมีเหล่านี้มันจะจับพรมนาน เพราะยิ่งนานจะยิ่งล้างออกยากนั่นเอง
5.        ถ้าหากว่าพรมมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เราก็อาจจะนำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัด แล้วก็ปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโมง แล้วเราก็ค่อยเปิดประตูรถให้ลมมันพัดผ่าน ซึ่งความร้อนจากแสงแดดนั้นมันจะช่วยทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์จางลงหรือหมดไปนั่นเอง
6.        ถ้าหากว่าพรมมีพวกเศษฝุ่นสะสมอยู่นั้น ให้เราใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดที่พรมปูพื้นรถของเรา รวมถึงส่วนอื่น ๆ ในห้องโดยสารด้วย เพราะเวลาเราเปิดประตูรถยนต์นั้นพวกฝุ่นต่าง ๆ ก็จะโดนลมพัดเข้ามาเกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถเรานั่นเอง ซึ่งเราควรดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง