กรองแอร์รถยนต์ ชิ้นส่วนสำคัญที่ต้องใส่ใจ ควรเปลี่ยนตอนไหน มีให้เลือกกี่แบบ ?

Writeroffpage

กรองแอร์รถยนต์ ชิ้นส่วนสำคัญที่ต้องใส่ใจ ควรเปลี่ยนตอนไหน มีให้เลือกกี่แบบ ?

หลายคนอาจมองข้าม กรองแอร์รถยนต์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ไส้กรองแอร์ ทั้งที่จริงแล้ว ชิ้นส่วนเล็ก ๆ นี้คือหนึ่งในตัวช่วยหลักที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารสะอาด สดชื่น และน่าอยู่ ทั้งยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบแอร์รถยนต์โดยตรง

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า กรองแอร์รถยนต์คืออะไร ทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท แต่ละแบบเหมาะกับใคร และควรเปลี่ยนเมื่อไร พร้อมแนะนำวิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนกรองแอร์แล้วหรือยัง


กรองแอร์รถยนต์คืออะไร?

กรองแอร์รถยนต์ (Cabin Air Filter) คืออุปกรณ์ที่อยู่ในระบบแอร์ มีหน้าที่กรองฝุ่น ควัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ และอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยมากับอากาศ ก่อนจะเข้าสู่ห้องโดยสาร ช่วยให้คนขับและผู้โดยสารได้สูดอากาศสะอาดสดชื่น ลดกลิ่นอับ และยังช่วยป้องกันไม่ให้ระบบแอร์อุดตันหรือเสียหายก่อนเวลาอันควรอีกด้วย

ควรเปลี่ยนกรองแอร์ตอนไหน

โดยทั่วไป ควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุก 1 ปี หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน แต่ถ้าขับในพื้นที่ฝุ่นเยอะ หรือมีมลพิษสูง ควรตรวจเช็กทุก 10,000 กิโลเมตร และเปลี่ยนเร็วกว่าระยะที่กำหนด เพื่อรักษาระบบแอร์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว

สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนกรองแอร์แล้ว

1. อากาศในรถไม่สดชื่น หรือมีกลิ่นอับ
2. ลมจากแอร์อ่อนลง หรือแรงลมไม่สม่ำเสมอ
3. ช่องแอร์มีฝุ่นเกาะหรือชื้น
4. ได้ยินเสียงแอร์ทำงานดังผิดปกติ
5. เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น หรือกินน้ำมันมากกว่าเดิม
6. ผู้โดยสารมีอาการแพ้หรือจามบ่อย
หากพบอาการเหล่านี้ แนะนำให้ตรวจเช็กกรองแอร์ทันที เพื่อความสบายและสุขภาพของทุกคนในรถ

กรองแอร์มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับรถคุณ?

ปัจจุบันกรองแอร์มีให้เลือกหลายประเภท โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและราคาต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งหลักๆ มี 3 แบบ ดังนี้

1. กรองแอร์แบบธรรมดา
ผลิตจากกระดาษหรือเส้นใยสังเคราะห์ เน้นกรองฝุ่นทั่วไป เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้มีปัญหาทางระบบหายใจหรืออาการแพ้

2. กรองแอร์แบบคาร์บอน
มีการผสมผงคาร์บอนในชั้นกรอง ทำให้สามารถดูดซับกลิ่นและมลพิษในอากาศได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องกลิ่นในห้องโดยสาร เช่น กลิ่นบุหรี่ หรือกลิ่นจากภายนอกรถ

3. กรองแอร์แบบ HEPA
ใช้วัสดุเส้นใยพิเศษที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น PM 2.5, เชื้อรา, แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือใช้งานรถในพื้นที่มีฝุ่นและมลพิษสูง

บทสรุป

กรองแอร์รถยนต์อาจดูเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ แต่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศ ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพการทำงานของระบบแอร์อย่างมาก การเลือกใช้กรองแอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเปลี่ยนตามระยะเวลาที่แนะนำ จะช่วยให้คุณและผู้โดยสารทุกคนเดินทางได้อย่างสดชื่นและปลอดภัยในทุกเส้นทาง
หากคุณกำลังมองหากรองแอร์รถยนต์คุณภาพดี หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่จะช่วยยกระดับการขับขี่ของคุณ แนะนำให้แวะมาที่ CNC789 ร้านขายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ พร้อมสินค้าแท้คุณภาพสูง ครอบคลุมทุกความต้องการของรถคุณ