เติมลมยางไนโตรเจน ดีกว่าลมยางปกติจริงหรือ????
[color=Green]ข้อดีในการเติมลม ไนโตรเจน[/color][color=Blue]1. ลดอัตราการระเบิดของลมยาง เพราะก๊าซไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย การยึดติดกันของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำให้การขยับตัวเคลื่อนที่ช้า โมเลกุลเสียดสีกันน้อย จึงทำให้ลมภายในยางเกิดความร้อนสะสมน้อย แรงดันลมในยางจึงเปลี่ยนแปลงไม่มาก ทำให้ยางมีโอกาสระเบิดน้อย (ส่วนมากยางที่ระเบิดเกิดจากแรงดันลมในยางเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับโครงผ้าใบเริ่มเสื่อมคุณภาพจึงเกิดการระเบิด) ล้อที่เติมลมไนโตรเจนแล้วยังมีความร้อนอยู่บ้าง เนื่องจากการเสียดสีของลูกปืนล้อ เบรก ที่ส่งผ่านกระทะล้อมาสู่ยาง และเกิดจากยางเสียดสีกับพื้นถนน ถ้ารถวิ่งทางตรงยางจะเสียดสีกับถนนน้อยกว่าในขณะเลี้ยว แต่ 80% ของการขับขี่คือการหักเลี้ยวตามโค้งถนนหรือแซงและหลบ[/color]
[color=Red]2. นุ่มนวลและลดเสียงดังจากยางกระทบพื้น เพราะก๊าซไนโตรเจนมีกายึดติดของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำให้เคลื่อนที่ช้า เมื่อยางกระทบกับคลื่นตะเข็บของถนน ยางจะเคลื่อนที่ยืดหยุ่นตัวช้าลง ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และลดเสียงดังของยางไปได้มาก (ถ้ายางซีรี่ส์ต่ำจะเห็นผลน้อย ถ้ายางซีรี่ส์สูงๆ จะเห็นผลได้มาก หรือถ้ายางที่ร่องดอกยางห่างๆ จะเห็นผลและเงียบลงไปมาก)[/color]
[color=DarkOrchid]3. ไม่ทำให้กระทะล้อเป็นสนิมและแป้งที่เคลื่อบยางก็ไม่เป็นก้อนในท้องยาง เพราะในการเติมลมยางด้วยไนโตรเจนทำให้ในยางมีปริมาณออกซิจนอยู่น้อย ถ้าออกซิเจนไปรวมตัวทำปฏิกิริยากับเหล็กหรืออลูมิเนียมจะทำให้เกิดสนิมที่บริเวณกระทะล้อได้ และถ้าออกซิเจนไปรวมตัวกับไฮโดรเจนซึ่งปะปนอยู่ในลมยาง จะทำให้เกิดเป็นหยดน้ำ H2O หยดน้ำนี้เมื่อกลิ้งอยู่ในท้องยางจะทำให้แป้งที่อยู่ในท้องยางรวมตัวกันเป็นก้อนกลิ้งอยู่ในท้องยาง และขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ถ้าก้อนแป้งนี้มีมากหรือขนาดใหญ่พอที่จะทำให้พวงมาลัยรถสั่นได้ ต้องถ่วงล้อใหม่ แต่มักจะถ่วงไม่ลง ถ้าหากไม่นำเอาก้อนนี้ออกก่อน[/color]
[color=DarkGreen]4. ไม่ต้องเติมลมหรือเชคลมยางบ่อยๆ เพราะอะตอมของไนโตรเจนมีขนาดโตกว่าออกซิเจน ซึ่งออกซิเจนสามารถซึมเข้าออกเนื้อยางได้ แต่ไนโตรเจนไม่สามารถซึมผ่านได้ ดังนั้นเมื่อเติมไนโตรเจนจึงทำให้ลมยางไม่ค่อยลดลง จากที่เคยทดลอง 3 เดือน มีการลดลงประมาณ 1 ปอนด์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก ในการเติมลมยางเราไม่เติมลมไนโตรเจนเข้าไป 100% เพราะออกซิเจนจากภายนอกจะซึมเข้าหาภายในยาง ทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น โดยปกติจะเติมไนโตรเจนเข้าไป 95% - 97% ให้ออกซิเจนเหลือภายในยางเพื่อต้านออกซิเจนที่จะแทรกจากอากาศภายนอก เพราะฉะนั้นถ้านำไนโตรเจนแบบถังไนโตรเจน 100% มาเติมลมยาง พอใช้ไปออกซิเจนจากภายนอกจะแทรกเข้าไปทำให้ลมยางเพิ่มขึ้นเอง (คุมแรงดันลมไม่ได้)[/color]
[color=Orange]5. ยืดอายุยาง เพราะในยางรถยนต์ประกอบด้วยสารเคมี ถ้ามีออกซิเจนอยู่มาก ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับเคมีทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพเร็ว และเนื่องจากไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย ทำให้ยางมีความร้อนน้อย มีผลให้ยางสึกหรอน้อยตามไปด้วย[/color] เติมอยู่เหมือนกัน ดี ดี จริงคับผมก็ใช้ ที่ร้านแถมมาให้ {:4_275:} อืมๆๆๆๆๆ {:4_273:} ก็เติมเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างเท่าไหร่ หรือว่าต้องใช้ไปนานๆ เติมเช่นกันครับ เย้ๆ ไนโตเจนมีคุณสมบัติที่ดีกว่านะครับ ส่วนมากใช้พวกล้อเครื่องบินอ่ะครับ เรื่องจริงครับ :victory: เด๋วไปเติมบ้างดีกว่า ขอบคุณมากครับ เด๋วไปเติม เหมือนกันล่ะ เติมแพงเปล่าคับ จะไปเติมครับ เจอมากับตัวครับ เติมไนโตรเจน วิ่งมา 100 ได้กลิ่นไหม่เปิดกระจก ชิดซ้ายลงไปดูยางหน้าซ้ายระเบิดครับ นึกภาพไม่ออกถ้เป้นเติมลมจะเป้นไง จะไปเติมบ้างแล้ว ข้อเสียถ้าเติมไนโตรเจน เติมลมปกติไม่ได้
เข้าปั๊มจะให้เด็กเติมลมยาง ยังไม่ได้เลย
เพราะจะทำให้ลมไนโตรเจนเสียเปล่าไปทันที...กลายเป็นลมธรรมดา
ถึงได้บอกว่า ยุ่งยากไง ถ้าไม่ได้มีแบบที่ผมบอกตอนแรก ข้อดี N2 หรือไนโตรเจน เป็นก๊าซเฉื่อย อยู่ในบรรยากาศที่เราหายใจนี่แหละครับ (ประมาณ79%) มีคุณสมบัติไม่ขยายตัวเวลามีการเปลี่ยนแปลงอุหภูมิหรืออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ถ้าเติมในยางรถก้อจะลดการระเบิดได้ครับ (ฟังเค้ามา คริๆ) อีกอย่างคือไม่มีออกซิเจน (O2) ผสมอยุ่จึงสามารถป้องกันสนิมที่จะเกิดกับล้อกะทะเหล็กหรืออัลลอยได้ครับประมาณนั้น อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า ลมไนโตรเจน ต่างกับ ลมธรรมดา อย่างไร ทำไมถึงบอกกันว่าดีกว่า ?
ในอากาศ หรือ ลมปกติ ทั่วไปจะประกอบด้วย ไนโตรเจน ประมาณ 78%
ที่เหลืออีก 22% เป็น ออกซิเจน , คาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้น และ อื่นๆ
ทีนี้ เวลาเราเติมลมธรรมดาเข้าไปในยางรถยนต์
ก็จะมีความชิ้นเข้าไปด้วย
พออากาศเปลี่ยนแปลง ร้อนขึ้น หรือ เย็นขึ้น
ความชิ้นเปลี่ยนสภาพเป็นไอน้ำ ทำให้ลมที่อยู่ในยางรถยนต์ไม่คงที่
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เราต้องหมั่นตรวจเช็คลมยางเสมอๆ (ช่างทั่วไป แนะนำ อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ ครั้ง)
ส่วนลม ไนโตรเจน นั้น คือ การอัดไนโตรเจนเข้าไปล้วนๆ 99%
มีส่วนอื่นๆ แค่ 1 %
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ลมยางค่อนข้างเสถียร ไม่ต้องตรวจเช็คกันบ่อยๆ
(ช่างตามร้านยาง แนะนำว่าตรวจเช็คเดือนละ ครั้ง หรือ 2 เดือนครั้ง ก็พอ)
ส่วนเรื่องการขับขี่ นุ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้นมั้ย พวกนี้ ผมว่าไม่เกี่ยวกัน
และที่บอกว่า ช่วยลดการระเบิด หรือ ยางแตก ก็น่าจะมีส่วนนิดหน่อย
เพราะลมธรรมดา ถ้าซึมออกมามากๆ ทำให้ลมยางอ่อน ก็มีโอกาศระเบิดได้ง่ายกว่า
ปล. รู้มาคร่าวๆ ประมาณนี้ ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องขออภัย
ปล.2 ลมไนโตรเจน 200 เอง เติมไปเหอะครับ เช็คฟรีตลอด บางร้าน 6 เดือน
ดีกว่าลมธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าตอนแรกเติมเปนลมธรรมดา เราจะเปลี่ยนเปนลมไนโตรเจนบ้างได้ป่าวค่ะ?? ต้องลอง ยังไม่เคยใช้ไนโตรเจนเลยค่ะ แต่เดี๋ยวจะไปลองดู
หน้า:
[1]
2